อ่าน 1,117 คน
AREA แถลง ฉบับที่ 30/2552: 26 สิงหาคม 2552
 สรุปราคาบ้านในสหรัฐอเมริกาไตรมาส 2/2552: เลือดหยุดไหล

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
sopon@area.co.th

          การเปลี่ยนแปลงราคาของที่อยู่อาศัยในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นดัชนีภาวะเศรษฐกิจสำคัญที่สุดดัชนีหนึ่ง จึงมีการรวบรวมสถิติและรายงานต่อเนื่องเป็นรายเดือน ซึ่งศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้ติดตามมานำเสนอต่อเนื่องทุกเดือนเช่นกัน
          ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 ราคาบ้านทุกประเภทในสหรัฐอเมริกา มีราคาเพิ่มขึ้น 0.5% หรือหากเพิ่มตามนี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 12 เดือนข้างหน้า ก็จะทำให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 6.17% แต่ในภาวะที่ยังผันผวน ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าอัตราการเพิ่มนี้จะคงที่ ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มหรือลดได้มากกว่านี้
          อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาบ้านดังกล่าวนี้ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาก 2 เดือนแล้ว โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม ราคาบ้านก็เพิ่มขึ้น 0.6% อาจกล่าวได้ว่านับแต่เดือนมกราคม 2552 เป็นต้นมา มีเพียงช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนเท่านั้นที่ราคาบ้านติดลบเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
          ถ้าเทียบกับช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2551 – มิถุนายน 2552) จะพบว่า ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกา ลดลง 6.13% ถ้าเทียบกับประเทศไทย นับว่าอยู่ในช่วงที่สวนกระแสกัน โดยศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ประมาณว่า ราคาบ้านเปิดตัวใหม่ในแต่ละปี ราคาบ้านใหม่ที่ยังขายอยู่ในตลาด ราคาบ้านหลังเก่า และราคาที่ดินในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้อาจมียกเว้นเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวบางแห่งเท่านั้น
          ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 4 รัฐจาก 50 รัฐที่ราคาบ้านยังเพิ่มขึ้น ได้แก่มลรัฐดาโกตาเหนือ (2.8% ต่อปี) รัฐดาโกตาใต้ รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ และรัฐเมนซึ่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือสุดของประเทศ ซึ่งแต่ละรัฐไม่ค่อยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คึกคักมากนัก จึงไม่ค่อยหวือหวาในการขึ้นหรือลงของราคาบ้าน
          ส่วนรัฐที่มีราคาตกต่ำลงมากเป็นพิเศษได้แก่ มลรัฐเนวาดา อริโซนา ฟลอริดา และแคลิฟอร์เนีย โดยลดลง 28.1%, 21.2%, 17.6% และ 15.4% ตามลำดับ มลรัฐเหล่านี้มักมีความคึกคักในการซื้อขายเก็งกำไร หรือมีความนิยมสูงในอดีต ทำให้ราคาบ้านถูก ‘ปั่น’ จนสูงลิ่วเป็นพิเศษ เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ ราคาจึงตกต่ำลงมาสู่ความเป็นจริงมากขึ้น
          สำหรับในรายละเอียด นครที่ราคาบ้านลดลงมากเป็นพิเศษได้แก่ นครเมอร์เซด ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาลดลงไปถึง 27.1%  ถ้าเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา ลดลงไปแล้วถึง 36.1% แสดงว่าราคาบ้านตกต่ำลงไปเหลือเพียง สองในสามในช่วงที่ราคายังสูงอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตามหากคำนวณตามนี้ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เชื่อว่าราคาบ้านที่นครเมอร์เซด คงตกต่ำลงไปถึงราวครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับช่วงที่ราคาเฟื่องฟูสูงสุดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จึงนับว่าเป็ฯการตกต่ำที่น่าตกใจมาก
          นครที่มีราคาตกต่ำเป็นอันดับรองลงมาได้แก่ นครลาสเวกัส มลรัฐเนวาดา ซึ่งราคาลดไป 26.2% นครแวลเลโจและแฟร์ฟิลด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย (23.8%) นครไมอามี มลรัฐฟลอริดา (23.4%) และนครโมเดสโต มลรัฐแคลิฟอร์เนีย (22.5%) เป็นต้น นครเหล่านี้ เป็นนครที่แต่เดิมมีการซื้อขายเปลี่ยนมือและราคาพุ่งสูงขึ้นมากที่สุด จึงต่ำมากมาเป็นพิเศษในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
          อาจกล่าวได้ว่าราคาบ้านในขณะนี้ถอยหลังไปเทียบได้กับช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 หรืออีก 2 ปีที่เกิดวิกฤติ นับว่าเป็นการกลับไปสู่ความเป็นจริงมากขึ้น แต่มีแนวโน้มว่าราคาบ้านจะเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2552 หากเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาดีขึ้น

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved