ดร.โสภณ เตือนกระตุ้นเศรษฐกิจจนพัง แนะเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ
  AREA แถลง ฉบับที่ 99/2559: วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2559

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            รัฐบาลไม่อาจอ้างได้ว่าเศรษฐกิจโลกแย่ ไทยจึงแย่ จริงๆ ไทยแย่ด้วยตนเอง เพราะเศรษฐกิจโลกและเพื่อนบ้านอาเซียนล้วนเติบโตดี หากรัฐบาลเข้าใจผิด กระตุ้นเศรษฐกิจผิด จะยิ่งไปกันใหญ่ จะเกิดอาการ “รวยกระจุก จนกระจาย” อาจต้องให้มีการเลือกตั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเปลี่ยนตัวทีมเศรษฐกิจ

            ตามที่มีข่าวว่า “อัดฉีดเพิ่มหมู่บ้านละ5แสน” (bit.ly/1RtkDff) ปรากฏว่าข่าวดังกล่าวมีสาระคลาดเคลื่อนบางประการ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) จึงขอนำเสนอความจริง

            ที่ว่าเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นนั้น ในความเป็นจริง ธนาคารโลกยืนยันว่า เศรษฐกิจโลกมีการเติบโตดี bit.ly/1pAPD7j) คือประมาณ 2.4% ในปี 2558 และ 2.9% ในปี 2559 มีเพียงเศรษฐกิจไทยที่ตกต่ำ โดยมีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่ 2% ในปี 2559 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเศรษฐกิจโลก และถือได้ว่าเป็นประเทศที่เศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในกลุ่มเพื่อนบ้านอาเซียน โดยประเทศที่จะเติบโตต่ำสุดแต่ก็ยังสูงกว่าไทยคือมาเลเซีย ที่จะเติบโต 5% ในปี 2558 สำหรับประเทศอื่น ๆ เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชาและลาว ต่างเติบโตในอัตรา 5.5%-6.9% โดยคาดว่าเมียนมาร์จะเป็นแชมป์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ 8.5% ในปี 2559

            ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่สามารถอ้างเศรษฐกิจโลกหรือเศรษฐกิจอาเซียนมาเป็นบรรทัดฐานได้ การที่เศรษฐกิจไทยตกต่ำกว่าเพื่อนบ้านในอาเซียนและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกนั้น ประการสำคัญอยู่ที่การบริหารกิจการภายในของประเทศไทยเองทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง จึงทำให้การส่งออกติดลบ การลงทุนจำกัดตัวลง เราจึงควรมีความเข้าใจที่ถูกต้อง หาไม่ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้สอดคล้องกับความเป็นจริง


ที่มาของรูปประกอบ: bit.ly/21AOPus

            สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการก่อสร้างต่าง ๆ ในชนบทนั้น อาจเป็นการสร้างความหายนะให้กับเศรษฐกิจของชาติได้ เพราะไม่ได้ทำให้ประชาชนทั่วไปรวยขึ้น ผู้ที่ได้ประโยชน์โดยตรงกลับเป็นผู้รับเหมา วิสาหกิจขนาดใหญ่ที่ขายปูน เหล็ก และวัสดุก่อสร้าง การกระตุ้นในลักษณะนี้ทำให้ประชาชนในท้องถิ่น “กินน้ำใต้ศอก” ผู้ที่ได้ประโยชน์ข้างต้น ประชาชนไม่ใช่ศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหา ประชาชนควรได้รับทุนเพื่อการประกอบธุรกิจชุมชนแทนการก่อสร้างต่าง ๆ ดังนั้นการกระตุ้นตามนโยบายของรัฐบาลจึงยิ่งเท่ากับสร้างความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชน กลายเป็น “รวยกระจุก จนกระจาย” ไปเสีย

            ปรากฏการณ์ที่มีการยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ได้รับการกล่าวหาว่า “โกง” กลับไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นในทางตรงกันข้าม การให้มีการเลือกตั้ง อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้มหาศาลคล้ายกรณีเมียนมาร์ที่เศรษฐกิจกำลังเติบใหญ่เพราะมีความโปร่งใสมากขึ้นนั่นเอง หรือถ้าไม่สามารถให้มีการเลือกตั้งได้ ก็อาจต้องเปลี่ยนขุนศึกเศรษฐกิจอีกรอบ เผื่ออะไรจะดีขึ้น

อ่าน 2,234 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved