พุทธไม่รับบ่อนจริงหรือ ทำไมการพนันไม่มีในศีล 5
  AREA แถลง ฉบับที่ 171/2558: วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2558

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ตอนนี้กำลังมีข่าวเรื่องกาสิโน ฝ่ายค้านก็อ้างศาสนา บอกว่าขัดหลักการของพุทธ จริงๆ ก็คงไม่มีศาสนาไหนสนับสนุนให้คนไปเล่นการพนัน แต่การพนันนั้น ก็ไม่ได้ห้ามไว้ในศีล 5 หรือกระทั่งศีล 8! แล้วจะมาอ้างศาสนากันอยู่ใย!?!

            ศีล 5 ระบุไว้ว่า ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามลักทรัพย์ ห้ามประพฤติผิดในกาม ห้ามพูดปด และห้ามดื่มสุราเมรัย ส่วนศีล 8 ก็เพิ่มอีก 3 ข้อคือ ห้ามบริโภคอาหารในยามวิกาล ห้ามฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี และประดับร่างกายด้วยดอกไม้ของหอม เครื่องประดับ เครื่องทา เครื่องย้อม และห้ามนั่งนอนเหนือเตียงตั่ง ที่เท้าสูงเกิน ภายในมีนุ่นหรือสำลี นั่นเอง

            บางท่านก็อาจ "โมเม" เอาว่า การพนันอยู่ในศีลข้อ 2 แต่การที่คนเราสมัครใจไปเล่นการพนัน ก็มีกติกา ไม่ได้ลักทรัพย์ใครสักหน่อย บางคนก็ว่าอยู่ในศีลข้อ 7 คือห้ามฟ้อนรำขับร้อง โดย "โมเม" ว่าการพนันก็เป็นการสนุกสนานอย่างหนึ่ง แต่ทั้งหลายทั้งมวลก็ล้วนเป็นการ "โมเม" หรือ "เอาสีข้างเข้าถู" ทั้งสิ้น ถ้าการพนันเป็นความผิดฉกรรจ์ขนาดนั้น ป่านนี้คงระบุชัดในศีล 5 หรือศีล 8 ไปแล้ว

            อย่างไรก็ตามสำหรับ "สาวก" ของพระพุทธเจ้าคือพระสงฆ์ ในพระไตรปิฎก พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 301 ห้ามเล่นการพนันเด็ดขาด โดยเขียนไว้ว่า "(๑๐๗)  ๔. ภิกษุเว้นขาดจากการขวนขวายเล่นการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท" (http://goo.gl/7OphEf)  ส่วนในระดับชาวบ้านทั่วไป พระพุทธเจ้าก็สอน เช่นครั้งที่สอนบุตรของคฤหบดีมหาศาล ตามพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ก็เขียน (เตือน) ว่า "[๑๘๒] ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอัน

เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการ" (http://goo.gl/6iGM5s และ http://goo.gl/3tZkvq)

            การพนันก็ดี อาชีพโสเภณีก็ดี มีมาก่อนสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็สอนสั่งให้สาวกห้ามยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้โดยเด็ดขาด แต่ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์เป็นตัวบุคคล สำหรับผู้ที่นับถือพุทธอย่างเคร่งครัดโดยอุทิศตนเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า มุ่งไปสู่การหลุดพ้น หรือเข้าหาธรรมะที่สูงกว่าของปุถุชน (หรือผู้มีกิเลสหนา) ก็ต้องห้ามขาดไปเลย แต่สำหรับประชาชนทั่วไป พุทธก็คงไม่ได้ไปยุ่งกับทางโลกหรือไปออกกฎเกณฑ์ปกครองหรือยุ่มย่ามกับทางโลก ดังนั้นเราจึงไม่ควรดึงเอาศาสนามาอ้างเพื่อห้ามการมีกาสิโน

            ไม่ว่าคนที่นับถือศาสนาไหน ก็รู้ว่าการพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดีหากเราหลงกับมัน ในความเป็นจริงแล้ว อะไรที่ไปถึงขั้นหลงแล้ว ย่อมไม่ดีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นรักจนหลง ศรัทธาจนหลง หรือหลงในบุญ ในนิมิตต่าง ๆ ในขณะนั่งสมาธิก็ตาม แต่สิ่งไม่ดีเหล่านี้ มักส่งผลให้กับตัวเราเองในเบื้องต้นก่อน และอาจส่งผลกระทบต่อผู้อื่นบ้าง เพราะสรรพสิ่งล้วนสัมพันธ์กันหมด เข้าทำนอง "เด็ดดอกไม้ ย่อมสะเทือนถึงดวงดาว" แต่ก็ไม่ร้ายแรงขนาดผิดศีล เพราะการผิดศีลนั้นละเมิด สร้างความเสียหายแก่คนหรือสัตว์โดยตรง เช่น ไปฆ่าคนหรือสัตว์อื่น ไปลักทรัพย์ผู้อื่น ไปประพฤติผิดในกามต่อครอบครัวอื่น ไปโกหกคนอื่น หรือการดื่มสุราเมรัย ซึ่งทำให้ขาดสติจนละเมิดหรือทำร้ายผู้อื่น เป็นต้น

            ในอีกแง่หนึ่ง การทำอะไรตามสมควรโดยไม่เกินพอดี ไม่หลง ย่อมส่งผลดี เช่น การดื่มแอลกอฮอลเพื่อให้เลือดลมสูบฉีดบ้าง (แต่ผู้เขียนก็ไม่เคยดื่ม) หรือแม้แต่การเล่นการพนัน ในแง่หนึ่งก็ถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจอย่างหนึ่ง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในเมืองการพนัน เช่น ลาสเวกัส เรโน สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า คนที่ไปนั้นไม่ใช่นักการพนันตัวยงเป็นหลัก แต่เป็นนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวดู เล่นบ้าง หรือไปงานประชุม สัมมนา หรือพักผ่อนกับครอบครัว พวกเซียนพนันคงเป็นแค่คนส่วนน้อย แม้แต่คนส่วนใหญ่ในเมืองเหล่านั้นเอง ก็คงไม่ได้ติดการพนันงอมแงม แม้มีบ่อนการพนันหรือกาสิโนอยู่ข้างบ้านก็ตาม

            ในเมื่อการพนันเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในสังคม การมีกาสิโนถูกกฎหมายจึงเป็นเพียงการจัดการให้เหมาะสมเท่านั้น คนเล่นก็ได้รับความคุ้มครอง ปลอดภัย ไม่ถูกโกง คนทำกิจการนี้ก็ไม่ต้องส่งส่วยให้ "คนมีสี"  ภาษีที่ได้ก็เอาเข้าหลวงมาพัฒนาประเทศ ข้อดีของการทำให้โปร่งใสก็คือเป็นการขจัดการทุจริตให้หมดไปนั่นเอง แถมยังสามารถสร้างงานได้มากมาย เป็นการกระจายรายได้อีกด้วย เช่น ในเมืองการพนันใหญ่ ๆ ในปัจจุบัน กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเล่นกันทั้งครอบครัวหรือจัดกลุ่มประชุมสัมมนาต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก

            บางทีเราเห็นเมืองการพนันในสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฯลฯ เราก็ควรมองว่า เมืองเหล่านี้มีอารยธรรมมายาวนานกว่าไทย เจริญกว่าไทย ก็ยังมีกาสิโนได้เลย เราก็ควรมีได้ แต่บางคนก็อาจบอกว่า ที่เขามีได้เพราะประชาชนของเขามีวุฒิภาวะสูงกว่า การอ้างอย่างนี้คงไม่เป็นเหตุเป็นผลนัก เพราะในประเทศที่ด้อยความเจริญกว่าไทย เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ ก็ยังมีกาสิโนเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นในประเทศที่ที่เคร่งศาสนากว่าไทย เช่น ศรีลังกา อินเดีย เนปาล ก็ยังมีกาสิโนเช่นกัน หวังว่าคงไม่อ้างว่าคนไทยเป็นคนพันธุ์พิเศษที่ต่างจากคนอื่นในโลก

            เรื่องของทางโลกเช่นกาสิโน เราจึงควรจัดการทรัพยากรให้ดี อย่าให้ปล่อยให้ผิดกฎหมาย เพื่อทำให้ "ซาตาน" หากินกับสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้  ทำให้ "รวยกระจุก จนกระจาย" แต่ควรทำให้ถูกกฎหมาย ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ อย่าให้ "ซาตาน" ซื้อนักบวชให้ท่องคาถาเรื่องศาสนาแล้วเก็บกาสิโนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อให้ "ซาตาน" ได้ประโยชน์อยู่คนเดียว บาปหนัก!

อ่าน 3,942 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved