ชุมชนป้อมมหากาฬ จะถือเป็น "ซ่องโจร" ได้หรือไม่
  AREA แถลง ฉบับที่ 354/2559: วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2559

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            การที่ผู้คนจะถูก "ไล่รื้อ" นั้น เป็นเรื่องน่าอนาถ และน่าเห็นใจ แต่ในบางกรณี อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นหรือไม่ เราถูกลวงด้วยกลเม็ดการใช้ความน่ารักน่าสงสารของคน สัตว์ สิ่งของ จนมองข้ามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหรือไม่

            ทำไมมีการปลูกบ้านใหม่หรูๆ ในชุมชน ในขณะที่มีการโพนทะนากันว่ามีบ้านอยู่กันมานาน แต่หากเราสังเกตให้ดี และผู้สนับสนุนจากภายนอกไม่ "มืดบอด" จะเห็นได้ว่ามีการก่อสร้างบ้านสวย ๆ ใหม่ ๆ อย่างน้อย 4 หลัง บ้านแต่ละหลังคงมีราคาแพงพอสมควรทีเดียว คนที่ก่อสร้างบ้านเช่นนี้ได้ คงไม่ได้ยากจน แต่ตั้งใจปักหลักปักฐาน ที่ดินที่ก่อสร้างก็คงเป็นที่ดินของกรุงเทพมหานครที่เวนคืนมาแล้ว น่าจะถือเป็นผู้บุกรุก และหากถูกรื้อก็คงเสียดาย จึงต้องต่อสู้สุดขีดเพื่อรักษาผลประโยชน์อันมิชอบของตนเองใช่หรือไม่

รูปบ้านใหม่-โอ่โถง หลังที่ 1

ที่มา: www.facebook.com/photo.php?fbid=1637536549909888&set=pcb.1637539086576301

 

รูปบ้านใหม่-โอ่โถง หลังที่ 2-3

ที่มา: www.facebook.com/photo.php?fbid=1637536533243223&set=pcb.1637539086576301

 

รูปบ้านใหม่-โอ่โถง หลังที่ 2-3-4

ที่มา: www.facebook.com/photo.php?fbid=1637536519909891&set=pcb.1637539086576301

            มีการสร้างวาทกรรมลวงโลก มีการโกหกว่ามีบ้านทรงไทยหลังหนึ่งในชุมชน บอกว่าเป็นของตระกูลอึ๊งภากรณ์  ดร.ป๋วยก็เคยมาอยู่ แต่ในความเป็นจริง เมื่อปี 2548 หรือ 11 ปีที่แล้ว "ทายาท 'อึ๊งภากรณ์' ชี้แจงว่า บ้านในป้อมมหากาฬไม่เกี่ยวข้อง ดร.ป๋วย" นางอุไรวัลย์ อึ๊งภากรณ์ เป็นสะไภ้ และได้รับมรดกจากนางจิบ บุรกิจ และนางอุไรวัลย์ยังพยายามจะรื้อหลังจากได้รับเงินชดเชยจาก กทม. แล้ว แต่ชาวบ้านไม่ยอมให้เขารื้อบ้านของตนเอง เดือดร้อนจนต้องมาให้ กทม. รื้อถอนแทน นี่คือเล่ห์กลที่น่าละอายของคนที่เรียกร้องไม่ยอมย้ายออกไป ส่วนเรื่องของมีค่าไม่ว่าจะเป็นลวดลายต่างๆ ที่ตกแต่งบนตัวบ้านนั้น ก็ถูกแกะขายไปหมดแล้ว (http://bit.ly/2bQJAap)

หลักฐานคำร้องของนางอุไรวัลย์ อึ๊งภากรณ์

ที่มา: http://www.area.co.th/images/img_press/2559/09/press321-59_04.jpg

          ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ในรุ่นพ่อแม่ นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ได้เขียนใน FB เล่าว่า "ครั้งหนึ่ง เกือบ 20 ปีมาแล้ว ผมมีโอกาสเข้าไปในชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อเจรจากับผู้นำชุมชนในสมัยนั้นก็คือคุณป้านงลักษณ์ วรมหาคุณ และคุณลุงชาญ ทัพเมฆา การเจรจาเป็นไปด้วยดีโดยทั้งสองท่านขอให้ชะลอการเข้าพื้นที่ของกทม. ไว้ก่อน เนื่องจากยังไม่สะดวกเพราะเด็กๆ ยังไม่ปิดเทอม"

            ". . . ผู้บริหาร (กทม.) ได้ยินยอมผ่อนปรนให้ เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง . . . สิ่งที่ผมขอชุมชนในตอนนั้นคือพยายามอย่าปลูกอาคารสิ่งปลูกสร้างใหม่ขึ้นมา. . .ผ่านไปเกือบ 20 ปี ผู้นำทั้งสองท่านเสียชีวิต . . . ถึงวันนี้กลับลืมสิ่งที่พ่อแม่ของตนเองสัญญาไว้ มีการปลูกสร้างอาคารใหญ่โตบุกรุกในที่ดินว่างที่เจ้าของเดิมรื้อย้ายออกไปแล้ว รวมทั้งไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่. . . (http://bit.ly/2cwlL5v)" อย่างนี้จะถือเป็น "อั้งยี่" หรือ "ซ่องโจร" ได้หรือไม่

            ป้อมมหากาฬ แหล่งใหญ่ที่สุดของพลุ/ดอกไม้ไฟผิดกฎหมาย ที่ผ่านมามีข่าวคราวการตรวจจับร้านพลุดอกไม้ไฟในป้อมมหากาฬอยู่บ่อยครั้งแทบทุกปี และกลายเป็นว่าในพื้นที่นี้มีการทำผิดกฎหมายอยู่อย่างต่อเนื่อง การกระทำในลักษณะนี้ จะถือเป็น "ซ่องโจร" ในอีกทางหนึ่งหรือไม่ การที่สามารถขายสินค้าประเภทนี้ได้อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงการมีอิทธิพลทางการเงิน ทางผิดกฎหมายอยู่ในที่นี้หรือไม่

            ทำผิดกฎหมายสารพัด อย่างนี้จะเรียกว่า "ซ่องโจร" หรือไม่  การเป็น "โจร" หรือ "ขโมย" นั้น ถือว่ากระทำผิดกฎหมาย เช่น ผู้ที่บุกรุกอยู่นี้ ทำผิดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1304-7 ถือเป็นการครองครองสาธารณสมบัติ  ผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.360 (ทำให้ทรัพย์เสียหาย) ผิดกฎหมายที่ดิน ม.18 (ครอบครองที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติ)  ผิดพระราชบัญญัติโบราณสถาน ม.7 ทวิ ม.10 (http://bit.ly/2bEqAvy) แต่ก็ยังไม่ยอมรับการบังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น

            ขอทุกท่านโปรดพิจารณาให้ดี ขอให้ทุกอย่างอยู่ในทำนองคลองธรรม ไม่เบียดเบียนสมบัติของแผ่นดินมาเป็นของตนเอง ทำตัวให้ดีเป็นแบบอย่างแก่ลูกหลาน ฝึกตนให้มีหิริโอตตัปปะ ยึดถือความดีงาม มีความละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำผิดบาปต่อกฎหมายด้วยเถิด

อ่าน 3,086 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved