นิราศฮ่องกง: โรงแรมห้องละ 9 เตียง
  AREA แถลง ฉบับที่ 457/2560: วันศุกร์ที่ 01 ธันวาคม 2560

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

          ผมไปใช้ชีวิตสุดพอเพียง (ของแท้) ที่ฮ่องกงครับ ไม่อายที่จะเล่าให้ฟัง และไม่ได้โอ่ที่จะเล่าให้ฟังด้วย ลองมาดูกันครับ

          ในระหว่างวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2560 ผมเดินทางไปเข้าร่วมงาน MIPIM Asia 2017 ซึ่งเป็นงานประชุมสัมมนาอสังหาริมทรัพย์ระดับภูมิภาคเอเซีย โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 800 คน ณ ฮ่องกง ผมได้รับเชิญในนามของประธานสมาคมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ (FIABCI Thai) เพราะสมาคม FIABCI มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานที่จัดคือ MIPIM นั่นเอง ทั้งนี้ปกติสนนราคาค่าลงทะเบียนเข้าร่วมงานนี้เป็นเงินประมาณ 40,000 บาท แต่ผมได้รับเชิญ เลยไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนนี้

          ผมไปแบบพอเพียงครับ เลือกนั่งเครื่องบินถูกๆ ก็คือ Hong Kong Airlines เดินทางไป ตั้งแต่ราวตี 3 ของวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2560 ไปถึงนั่น 7 โมงเช้า แล้วค่อยนั่งรถไฟเข้าเมืองเป็นเงินประมาณ 500 บาท แต่ใช้เวลาเดินทางสั้นที่สุดคือ 24 นาทีเท่านั้น จากนั้นก็ไปลงทะเบียนเข้าร่วมงานเลย ในงานก็มีแต่คนใหญ่คนโต เป็นผู้จัดการกองทุน นักลงทุนรายใหญ่จากทั่วเอเซีย เป็นต้น

          สถานที่จัดประชุมก็คือโรงแรมไฮแอทฮ่องกง ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว สนนราคาประมาณ 9,000 บาท ผมไปไหนไม่ค่อยได้นอนโรงแรมจัดงาน ยกเว้นเขาจัดให้นอน ซึ่งหลายต่อหลายแห่งที่ผมเดินทางไปร่วมบรรยาย เขามักจะจัดที่พักหรูๆ หรือออกค่าเดินทางให้ด้วย บ้างยังได้เงิน "ติดปลายนวม" เป็นค่าวิทยากรอีกต่างหาก แต่หากต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ผมก็จะไปพักโรงแรมถูก ๆ แต่บางครั้ง พวกผู้เข้าประชุมอาจ "ลูบคม" ถามว่าพักที่ไหน  ผมก็อาจจะ "White Lie" ตอบส่งเดชไปเลยว่าพัก ณ สถานที่จัดงานนี้เลย

          พอตกต่ำหลังงานเลี้ยงอาหารค่ำ และหลังจากที่ผมเดินชมทัศนียภาพเกาะฮ่องกงจากฝั่งเกาลูน ผมก็ค่อยเดินไปโรงแรม จากท่าเรือวันชัย (ออกเสียงตามฝรั่ง Wan Chai หรือออกเสียงตามภาษากวางตุ้งว่า ว่านจ๋าย) ก็เดินไปประมาณ 25 นาที ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร ในฮ่องกง ส่วนมากจะใช้การเดินเป็นหลัก เพราะบ้างก็ไม่มีรถประจำทางผ่าน และคนฮ่องกงต้องเดินกันมาก ๆ  จนเป็นที่สังเกตว่าสาวฮ่องกงนั้น สวย แต่น่องใหญ่เพราะเดินมาก (ฮา)

          โรงแรมที่ผมพักชื่อ YesInn เป็นโรงแรมเล็ก ๆ อยู่ใกล้กับ Causeway Bay ห่างจากสถานีรถไฟวันชัยเพียงสถานีเดียว ที่พิเศษก็คือค่าที่พัก 160 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 640 บาทเท่านั้น ที่ถูกกว่าโรงแรมชั้นหนึ่งสิบกว่าเท่าก็เพราะว่า เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ที่ในแต่ละห้องมีเตียงนอนอยู่ 9 เตียง ในใบเสร็จเขาเขียนว่าเป็นห้องขนาด 21 เตียงด้วยซ้ำไป แต่ผมคงโชคดีที่ได้ห้องที่มีเตียงแค่ 9 เตียงเท่านั้น!

          ผมไปนอนเป็นคนที่ 9 พอดีเลยครับ คนที่นอนในโรงแรมแห่งนี้ส่วนมากเป็นคนหนุ่มสาวประเภท backpack ที่มาเที่ยวฮ่องกง มีเงินน้อย มากัน 2 คนขึ้นไป หรือมาเป็นหมู่คณะ ส่วนผมมาคนเดียว ในเตียงที่ผมอยู่ก็มีหมอนและมีผ้าห่ม ส่วนผ้าเช็ดตัวต้องไปเช่าต่างหากเป็นเงิน 40 บาท ผมก็เช่ามาอาบน้ำ และวางพาดไว้ปิดเป็นม่านตอนนอนอีกต่างหาก

          ตอนอาบน้ำ ผมก็พกทั้งเงินและมือถือเข้าไปด้วย อาบน้ำเสร็จก็นอน โดยนำเงินใส่กระเป๋ากางเกง ส่วนบัตรเครดิตและหนังสือเดินทางวางไว้ข้างๆ ติดฝาผนัง แต่จริงๆ เขามีตู้เซฟไว้เก็บของมีค่าเหมือนกัน แต่บังเอิญผมมีของเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเตียงสูงขนาดพอนั่งตัวตรงได้ ผมนั่งๆ นอนๆ สักพักจนถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่งก็นอน และตื่นขึ้นมาอีกทีก็เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ก็รีบเข้าห้องน้ำ เพราะคนอื่นที่เป็นเด็กหนุ่มสาวมักไม่ค่อยตื่นตอนเช้ามืดนัก จากนั้นผมก็เช็คเอาท์ออกมาเลย

          เมื่อเช็คเอาท์เสร็จในเช้าวันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2560 ผมก็เดินไปยังสถานที่ประชุม ซึ่งก็คือโรงแรมไฮแอทฮ่องกง ที่อยู่ห่างไปประมาณ 25 นาที สัมมนาอยู่ทั้งวัน จนกระทั่งเวลา 6 โมงเย็น ก็นั่งรถประจำทางไปสนามบินด้วยสนนราคาที่ถูกกว่ารถไฟ คือประมาณ 160 บาทเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้รีบร้อน เพราะเที่ยวบินขากลับกรุงเทพมหานครเป็นเวลา 5 ทุ่มครึ่ง ยังมีเวลาอีกนานโขอยู่ทีเดียว ในระหว่างรอ ผมยังมีเวลา Facebook Live กลับมากรุงเทพมหานครอีกต่างหาก (http://bit.ly/2jBB1mj)

          มาถึงกรุงเทพมหานครก็ประมาณตีสอง ขึ้นแท็กซี่ ไม่มีลูกน้อง สมุน หรือลูกหาบมารับเช่นพวกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กลับถึงบ้านก็ Update Facebook อีกหน่อย กว่าจะนอนก็ราวตี 4 ของวันพฤหัสบดี 30 พฤศจิกายน และตื่นขึ้นมาทำงานต่อตอนเวลา 8 โมงเช้า เพราะบนเครื่องบิน ผมก็พยายามนอนแบบนั่งในที่นั่งชั้นประหยัด (ไม่ค่อยได้ขึ้นชั้นธุรกิจยกเว้นเขาเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น)

          นี่แหละครับนิราศฮ่องกงของผม ที่ผมเขียนนี้ส่วนหนึ่งอยากจะบอกว่า ถ้าเราเป็นข้าราชการที่รับใช้ประชาชน เราควรไปชั้นธรรมดา ไม่ต้องไปชั้นธุรกิจ ยกเว้นออกเงินส่วนเพิ่มเอง ไปนอนโรงแรมก็ควรนอนแบบ 3 ดาวธรรมดาก็พอ ไม่ต้องสุด ๆ แบบผม แต่ไม่ต้องนอน 5 ดาว อย่าได้อ้างแบบดรามาสุด ๆ เด็ดขาดว่าเพื่อหน้าตาของประเทศชาติ ถ้าพวกคุณรู้จักประหยัดเพื่อชาติจะเป็นบุญต่อชาติมากกว่า อย่าอ้างชาติมาเอาประโยชน์ใส่ตัวเลย ถ้ากลัวเหนื่อยมากก็ไปล่วงหน้าสักวันหรือสองวัน ก็ยังทำได้

          ผมไม่อายที่เล่าเรื่องข้างต้นให้ฟัง และมักเล่าบ่อยๆ เพราะผมปฏิบัติบ่อย ๆ ไม่ได้สร้างภาพให้ดูสมถะเหมือนนักการเมือง นักการทหารหรือพวกผู้รากมากดีบางคน ผมก็พอมีฐานะที่จะไปและอยู่แบบเท่/หรูกว่านี้ แต่ผมว่ามันเกินความจำเป็นของผม และอีกอย่างผมจะได้ทดสอบตัวเองว่าร่างกายยังพอไหวที่จะสมบุกสมบั่นอยู่นั่นเอง

          พอเพียงจริงๆ ไม่ใช่พอเพียงแบบจอมปลอมครับผม

วิดิโอ: https://youtu.be/te4RPqn1A0o
อ่าน 3,201 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved