การพนันขันต่อ: พระพุทธและอรหันต์ยังรับคำท้าพวกเดียรถีย์
  AREA แถลง ฉบับที่ 188/2558: วันจันทร์ที่ 06 กรกฎาคม 2558

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ผมเป็นชาวพุทธที่สนับสนุนการมีกาสิโน ไม่ใช่เพื่อส่งเสริมให้คนเล่นเพิ่มขึ้น แต่เพื่อปราบปรามบ่อนผิดกฎหมายที่เป็นแหล่งหาเงินนอกรีตให้หมดไป นำเงินที่ได้จากการพนันถูกกฎหมาย มารณรงค์การไม่เล่นการพนัน (แบบเดียวกับบุหรี่และเหล้า)

            จากข้อมูลในหลายประเทศ การมีบ่อนถูกกฎหมายไม่ได้ทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้น เพราะคนเล่นก็คงมีอยู่จำนวนหนึ่ง แม้แต่เมืองกาสิโนเช่นสิงคโปร์ ลาสเวกัส ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ใช่ไปเล่นการพนันเป็นหลัก และเงินที่ได้จากการพนันส่วนมาก็คงเป็นของชาวบ้านนับล้านๆ ที่ไปเล่นครั้งคราว ไม่ใช่พวกเซียนพนัน เราจึงต้องแบออกมาให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการฟอกเงิน การประพฤติมิชอบต่ โดยเฉพาะเหล่าคนมีสี

            เห็นหลายคนชอบอ้างหลักศาสนามาปรามเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย แต่ในความเป็นจริง พระพุทธเจ้าให้พระสงฆ์ห้ามเล่นการพนัน แต่ไม่ได้นำกฎนี้มาใช้กับทางโลก กับปุถุชน พระพุทธองค์ได้แต่เตือนสติให้เห็นถึงอบายมุข 6 ที่หากใครลุ่มหลงแล้วคงนำไปสู่ความวิบัตินั่นเอง ดังนั้นในที่นี้จึงขออนุญาตยกตัวอย่างการ (พนัน) ขันต่อในทางพุทธศาสนาและความพอดีมาให้พิจารณา

            ว่ากันว่าในสมัยพุทธกาล ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าในโลกนี้คงไม่มีพระอรหันต์ เพราะไม่มีใครเหาะได้ พระมหาโมคคัลลานเถระจึง "รับคำท้า" ให้พระปิณโฑลภารทวาชเหาะให้ชาวบ้านได้ดูเป็นขวัญตา จนความทราบถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ติเตียนพระปิณโฑลภารทวาช และบัญญัติสิกขาบทห้ามภิกษุแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ หากภิกษุฝ่าฝืนต้องอาบัติทุกกฎ

            เมื่อพวกเดียรถีย์ทราบถึงพุทธบัญญัตินี้ ก็เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าเองก็จะไม่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ จึงท้าทายกับพระพุทธองค์ โดยหวังว่า หากพระพุทธองค์ไม่แสดงอิทธิฤทธิ์แล้ว ก็แสดงว่าไม่มีอิทธิฤทธิ์ก็จะทำให้ชาวเมืองหมดศรัทธา เลิกนับถือพระพุทธศาสนาและหันมานับถือตนแทน ในที่สุดพระพุทธองค์จึงตัดสินใจ "รับคำท้า" แสดงยมกปาฏิหาริย์ โดยตรัสว่า พระพุทธองค์ห้ามสาวกแสดงปาฏิหาริย์ แต่ไม่ได้ห้ามตนเองแสดง เปรียบเทียบกับเจ้าของสวนผลไม้ที่ห้ามไม่ให้คนอื่นเด็ดไปกินแต่ไม่ได้ห้ามตนเอง

            พระพุทธองค์ให้คนนำเม็ดมะม่วงไปปลูก เมื่อทรงล้างพระหัตถ์บนปากหลุม เม็ดมะม่วงก็เติบโตออกผลเต็มต้น ต่อมาพระพุทธองค์ทรงเนรมิตจงกรมแก้วในอากาศเหนือต้นมะม่วง แล้วทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ (https://goo.gl/w9x325) หรือการทำปาฏิหาริย์ให้บังเกิดเป็นคู่ๆ มีท่อน้ำและท่อไฟพุ่งมา จากส่วนต่าง ๆ ของพระวรกายสลับกันไป ท่อไฟที่พุ่งออกมานั้นมีฉัพพรรณรังสี คือ มี 6 สีสลับกัน เมื่อกระทบกับสายน้ำมีแสงสะท้อนสวยงามมาก ทรงเนรมิตพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นมาอีกพระพุทธองค์หนึ่ง ทรงให้พุทธเนรมิตแสดงพระอาการสลับกันกับพระพุทธองค์ แล้วเสร็จขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไปโปรดพระพุทธมารดา  การนี้ทำให้ผู้คนหันมาศรัทธาพระพุทธศาสนา และทำให้ชาวบ้านหมดศรัทธาในพวกเดียรถีย์

            เรื่องปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาตินี้จะเป็นเพียงเรื่องเล่าในพระไตรปิฎกที่อ่านผ่านการเติมแต่งสังคายนามาอย่างไรก็ตาม แต่ก็เป็นการชี้ให้เห็นอย่างหนึ่งถึงการแข่งขันท้าทายแสดงพระเดชเพื่อให้เกิดความศรัทธา และนอกเหนือจากเรื่องนี้ ยังมีกรณีพระยูไลที่ปราบเห้งเจียในเรื่องพระถังซำจั๋ง (https://goo.gl/YHrXEi) ที่พระยูไล "พนัน" กับเห้งเจียว่าจะเหาะพ้นฝ่ามือของพระพุทธองค์หรือไม่ เป็นต้น

            นอกจากว่าเราไม่ควรเอา "กฎของสงฆ์" มาใช้กับฆารวาสแล้วในกรณีการพนันแล้ว เรายังควร "เดินสายกลาง" อีกต่างหาก ครั้งหนึ่งพระเทวทัตเคยขอให้พระพุทธองค์ให้ออกพุทธบัญญัติให้พระอยู่แต่ในป่า (ไม่อยู่ในเมือง) ให้ออกบิณฑบาตตลอดชีวิต (ไม่ยินดีกิจนิมนต์) ให้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตรตลอดชีวิต (ไม่ยินดีคหบดีจีวร)  ให้อยู่แต่โคนไม้เป็นวัตรตลอดชีวิต (ไม่เข้าอาศัยที่มุงที่บัง) ห้ามฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต แต่พระพุทธองค์ก็ปฏิเสธการเคร่งเช่นนี้ (http://goo.gl/4r4YqU)

            ในสังคมที่ดูเคร่งครัดในศาสนามาก ในประเทศที่ประชาชนนับถือกันแทบ 100% ก็ใช่ว่าจะไม่มีอาชญากรรม แท้จริงแล้วยังอาจมีอาชญากรรมมากกว่าประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ที่คนส่วนใหญ่ถือว่าตนเองไม่นับถือศาสนาใดเสียอีก ในการห้ามอบายมุขโดยเอาศาสนาเข้ามาอ้างนั้น แท้จริงแล้วก็อาจจะเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของพวกนายบ่อนที่มีอำนาจใหญ่โต

            โดยสรุปแล้ว การ "พนัน" กันนั้นก็ใช่ว่าจะหมางถึงแต่ในแง่ลบ ในแง่หนึ่งก็คล้ายกับการรับคำท้าแสดงการเหาะในตำนานพุทธศาสนา (ซึ่งข้อนี้จะจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ) หรือการพนันกันระหว่างพระยูไลกับเห้งเจียเป็นต้น เราจึงไม่ควรเอาหลักศาสนามาใช้กับทางโลก อะไรที่ตึงเกินไปย่อมไม่ดี เช่นที่พระพุทธเจ้าเคยห้ามการออกพุทธบุญญัติที่เกินไปที่เสนอโดยพระเทวทัต เป็นต้น

อ่าน 3,643 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved