สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ชุ่มน้ำได้ ไม่อันตราย
  AREA แถลง ฉบับที่ 222/2558: วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม 2558

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

         เห็น NGOs ออกมาประกาศว่าบริเวณที่จะสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ต้องรักษาไว้ ห้ามสร้างโรงไฟฟ้า นี่คือการ "แหกตา" โดยแท้ ดูตัวอย่างได้ในมาเลเซีย เขาสร้างได้โดยไม่มีผลกระทบ ยิ่งไทยใช้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่า อันตรายจึงแทบไม่มี อย่าให้ใครใช้ความกลัวมาลวงไทย

         ในเอกสารของกลุ่มกรีนพีซ เขียนไว้ว่า "พื้นที่ชุ่มนํ้าปากแม่นํ้ากระบี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญในระดับนานาชาติลำดับที่ 1100 ในปี 2544 มีพื้นที่ประมาณ 133,120 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่สุสานหอย 45 ล้านปีที่เป็นหนึ่งเดียวในภูมิภาคนี้เขตผังเมืองรวมกระบี่ ปาชายเลนหาดเลน หาดทราย ปาพรุชายฝั่ง เทือกเขาหินปูนลำคลองน้อยใหญ่หน้าเมืองกระบี่จนถึงปาชายเลนและแหล่งหญ้าทะเลผืนใหญ่ในบริเวณเกาะศรีบอยา (http://goo.gl/Dc1w0A)

         เอกสารเขียนราวกับว่าพื้นที่ชุ่มน้ำนี้แตะต้องอะไรไม่ได้เลย เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่หากแตะต้องแล้วจะทำให้สิ่งแวดล้อมพังภินท์ลงหรืออย่างไร นี่เป็นข้ออ้างที่ขาดเหตุผลเป็นอย่างยิ่ง ในความเป็นจริง โรงไฟฟ้ากระบี่ผลิตไฟฟ้าถ่านหินลิกไนท์มาตั้งแต่ปี 2507 จนถึงปี 2538  และตั้งแต่ปี 2547 ก็ผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันเตาและกาซธรรมชาติ และในปี 2557 ได้มีการปรับระบบเผาไหม้ให้ใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มเติม (http://goo.gl/RmHCeB) ยิ่งตัวโรงงานก็ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งอีกด้วย ดังนั้นข้ออ้างเรื่องพื้นที่ชุ่มน้ำจึงตกไป


ภาพพื้นที่ชุ่มน้ำ 3 กลุ่มในมาเลเซียที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเรือขนาดยักษ์ https://goo.gl/LKvWjC

         ในมาเลเซีย มีพื้นที่ชุ่มน้ำแบบเดียวกับไทยอยู่หลายแห่ง แต่มีอยู่ 3 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้า Tanjung Bin Power Station ซึ่งเปิดดำเนินการบางส่วนตั้งแต่ปี 2549 หรือ 9 ปีที่แล้ว โครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่กำลังจะเปิดอีกส่วนหนึ่ง และยังมีท่าเรือขนาดใหญ่มีลานขนถ่ายสินค้ายาว 4 กิโลเมตร (คลองเตยยาวเพียง 1 กิโลเมตร) และมีพื้นที่กว้างขวางกว่าท่าเรือคลองเตยนับสิบเท่า โดยเป็นท่าเรือที่สร้างขึ้นเพื่อแข่งขันกับท่าเรือสิงคโปร์โดยเฉพาะ

         ทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเรือขนาดยักษ์อยู่ติดกับพื้นที่ชุ่มน้ำเลย ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไรเลย แต่สำหรับในประเทศไทย พวก NGOs นำพื้นที่ชุ่มน้ำมาอ้างเล่นประหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตะต้องไม่ได้ นี่คือการ "แหกตา" หลอกลวงประชาชนไปหรือไม่ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องพึงพิจารณา เพราะมีกรณีที่เกิดขึ้นจริงในมาเลเซียที่พื้นที่ชุ่มน้ำกับการพัฒนาโรงงานถ่านหินอยู่ติดกันเลย แถมสร้างอยู่ปากแม่น้ำอีกต่างหาก ในขณะที่โรงไฟฟ้ากระบี่สร้างบนบก และมีเพียงท่าเทียบเรือที่ยื่นลงไปในน้ำ

         โปรดอย่ากลัวโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ไม่อันตรายแน่นอน เมื่อก่อนโรงนี้ใช้ลิกไนท์ที่อันตรายกว่ามาตั้งนานแล้ว ก็ไม่เกิดมลภาวะ รีสอร์ตยิ่งเกิดเพิ่มขึ้นกันใหญ่ โรงใหม่ที่จะสร้างจะใช้ถ่านหินบิทูมินัสที่ดีกว่าลิกไนท์มาก ชนิดเดียวกับที่ใช้ที่สิงคโปร์-มาเลย์ แต่ใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ใหม่กว่าเพราะสร้างทีหลัง ยิ่งกว่านั้นมาเลย์สร้างในพื้นที่ชุ่มน้ำ ก็ไม่มีผล ใช้มา 9 ปีแล้ว ห่างจากสิงคโปร์แค่ 9 กม.เอง โปรดอย่าให้พวก NGOs มาปั่นหัวเราให้ตกอยู่ในความกลัว เขาพิสูจน์มาแล้ว

อ่าน 3,191 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved