ควรให้การให้บริการทางเพศเป็นสิ่งถูกกฎหมาย
  AREA แถลง ฉบับที่ 208/2559: วันอังคารที่ 14 มิถุนายน 2559

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการตรวจจับสถานอาบอบนวดหลายแห่ง แต่ส่วนมากตรวจพบว่าไม่มีการค้าประเวณี มีใครเชื่อบ้างว่าไม่มี ควรให้การค้าประเวณีเป็นสิ่งถูกกฎหมาย การค้าประเวณีถูกกฎหมาย ช่วยปราบทุจริต รักษาศีลธรรม

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวว่า ซ่องถือเป็นสถานที่ "อโคจร" แต่ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ทรงรังเกียจบุคคลที่ประกอบอาชีพเหล่านี้ แต่สมัยนี้สังคมสลับซับซ้อนยิ่งขึ้นมีสปา อาบอบนวด ฯลฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งถูกกฎหมาย แต่ปัจจุบันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่ง ดร.โสภณมีสมมติฐานว่าการทำให้ผิดกฎหมายคือรากเหง้าของการทุจริต เราลองมาศึกษาประสบการณ์จากต่างประเทศดู


จากหนังสือพิมพ์มติชน 13 มิถุนายน 2559 www.matichon.co.th/news/172496


สถานบริการในประเทศไทย ที่มา: www.matichon.co.th/online/2011/12/13234226731323425662l.jpg

            ในประเทศไทย การให้บริการทางเพศเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย แต่กลับมีผู้ประกอบอาชีพนี้อยู่มากมาย มีสถานค้าประเวณีอยู่เป็นจำนวนมากในรูปแบบสถานอาบอบนวด ร้านคาราโอเกะ ฯลฯ ศีลธรรมคือข้ออ้างสำคัญที่ทำให้อาชีพนี้ผิดกฎหมาย แต่การที่ทำให้อาชีพนี้ผิดกฎหมาย กลับเป็นการทำลายศีลธรรมอย่างถึงแก่น และกลายเป็นการปกป้องกลุ่มอิทธิพลบางกลุ่มให้สามารถทำอาชีพนี้อย่างเป็นล่ำ เป็นสัน 
            ในทางตรงกันข้าม อาชีพการให้บริการทางเพศกลับถูกกฎหมายในยุโรปตะวันตกนับสิบประเทศ โดยเฉพาะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่เจริญ น่าอยู่และโปร่งใสที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั้น อาชีพการให้บริการทางเพศเป็นอาชีพที่ต้องได้รับใบอนุญาต ผู้ให้บริการเสียภาษีถูกต้อง ลูกค้าสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ด้วย น่าแปลกแท้ ๆ ประเทศที่ประชาชนมีจริยธรรมสูงส่ง มีวินัยดีเยี่ยม มีคุณภาพชีวิตและการศึกษาชั้นยอด กลับเปิดกว้างสำหรับอาชีพการให้บริการทางเพศอย่างถูกกฎหมาย
            เฉพาะในสวิตเซอร์แลนด์ มีผู้ให้บริการทางเพศ 14,000 คน สร้างรายได้ได้ประมาณ 118,055 ล้านบาทต่อปี (3.5 พันล้านสวิสฟรังค์) ผู้ชายระหว่างอายุ 20-65 ปี (อายุเฉลี่ย 33 ปี) จำนวน 350,000 คน (20% ของชายในวัยนี้ทั้งหมด) เคยใช้บริการอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ประชากรสวิตเซอร์แลนด์มี 7.6 ล้านคน แสดงว่ามีผู้ให้บริการทางเพศประมาณ 1 คนต่อประชากรชาย 271 คน (โดยสมมติให้ประชากรหญิงมีเท่ากับชาย) หากใช้สถิตินี้มากับกรณีประเทศไทยที่มีประชากร 66.7 ล้านคน ก็อาจอนุมานได้ว่าไทยมีผู้ให้บริการทางเพศถึง 246,125 คน


"Sex boxes" ที่มา: http://www.rawstory.com/rs/2013/10/22/officials-in-zurich-call-sex-box-drive-in-a-success/

            ในนครซูริคมีสถานบริการทางเพศรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Sex Boxes” โดยเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 19:00 - 05.00 ของวันรุ่งขึ้น ทั้งนี้มีข้อกำหนดว่าผู้ใช้บริการต้องขับรถผ่านประตูเข้าไปเพียงคนเดียวเท่านั้น คล้ายแนวคิดการสั่งซื้อแฮมเบอร์เกอร์แบบขับผ่าน (Drive In) โดยผู้ใช้บริการต้องขับรถไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ซึ่งจะมีผู้ให้บริการทางเพศจำนวนหนึ่งรออยู่ และเมื่อตกลงค่าใช้จ่ายแล้ว ก็เข้าไปมีเพศสัมพันธ์กันใน "Sex Boxes" ซึ่งติดอุปกรณ์เตือนภัยเอาไว้ ก็ทำให้ผู้ให้บริการสามารถแจ้งกับตำรวจได้อย่างรวดเร็วหากมีอันตราย
            โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา เหล่าคุณตัวต้องมีใบอนุญาตเดินเร่ขายบริการ ซึ่งก่อนที่พวกเธอจะได้รับอนุมัติก็จำเป็นต้องมีใบอนุญาตการทำงาน (work permit) และใบประกันสุขภาพเสียก่อน นอกจากนี้แล้วพวกเธอยังต้องเสียภาษีจำนวน 5 ฟรังก์สวิสต่อคืนด้วย ขณะเดียวกัน ทางด้านลูกค้าในซูริกก็ว่าสามารถมองหาผู้ให้บริการทางเพศได้เพียง 3 จุดที่กำหนดไว้ ได้แก่ sex boxes ที่เพิ่งสร้างเสร็จ และโซนแห่งหนึ่งใกล้ๆ ถนนหลวง ส่วนอีกแห่งคือย่านเมืองเก่า ที่มีไว้บริการคนเดินเท้า
            การเปิดกว้างและสร้างความโปร่งใสให้เป็นอาชีพที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมายคล้าย อาชีพวิศวกร สถาปนิก แพทย์ ช่างก่อสร้าง ช่างตัดผม ฯลฯ ก็เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ให้บริการทางเพศที่ได้รับการควบคุมการประกอบอาชีพสามารถโฆษณา หรือติดต่อธุรกิจผ่านทางโทรศัพท์ หรือจัดหาสถานที่ ๆ เหมาะสมเพื่อการทำธุรกิจ ทางราชการสามารถจัดโปรแกรมการฝึกอบรมความรู้ การออมทรัพย์ การใช้เงิน การวางแผนความมั่งคั่งในอนาคตของผู้ให้บริการ รวมทั้งการอบรมผู้ใช้บริการให้อยู่ในกรอบกฎหมายโดยเคร่งครัด 
            ว่ากันว่าการให้บริการทางเพศเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยนับย้อนไปถึงยุคเมโสโปเตเมียซึ่งเป็นหนึ่งในสังคมอารยธรรมยุคแรกๆ ของมนุษยชาติ ในกรณีประเทศไทยมีบันทึกไว้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทอง ครั้งต้นกรุงศรีอยุธยา และไม่ได้ถือว่าเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย ในช่วงปลายรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีการตราพระราชบัญญัติป้องกันสัญจรโรค รัตนโกสินทร์ศก 127 (พ.ศ.2451) เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาโรค แต่ก็ไม่ได้ทำให้อาชีพนี้ผิดกฎหมาย กฎหมายนี้มีความตอนหนึ่งว่า “(สถานค้าประเวณี) ต้องมีโคมแขวนไว้หน้าโรงเป็นเครื่องหมาย . . .” กฎหมายฉบับนี้ยังบัญญัติให้การให้บริการทางเพศต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน มีการจัดทำบัญชีรายชื่อ และมีข้อห้ามการบังคับล่อลวงหญิงมาเพื่อค้าประเวณี เป็นต้น ว่ากันว่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานค้าประเวณีมีอยู่ทั่วไปแทบทุกหัวระแหง
            ในบางศาสนา ศาสดาก็ไม่ได้รังเกียจผู้ให้บริการทางเพศ และผู้ให้บริการทางเพศก็มีโอกาสขึ้นสู่สรวงสวรรค์หรือบรรลุธรรมเช่นกัน เพียงแต่สถานค้าประเวณีถือเป็นสถานที่ ‘อโคจร’ สำหรับนักบวช ยิ่งกว่านั้นนักบุญบางท่านถึงกับมองว่าผู้ให้บริการทางเพศช่วยแก้ปัญหาความแตกแยกในครอบครัวจากการมี ‘มากชู้หลายผัว’ ในพุทธศาสนา ก็มีภิกษุณีที่อดีตเป็นผู้ให้บริการทางเพศเช่นกัน นอกจากนี้ในสมัยโบราณยังยกย่องผู้ให้บริการทางเพศเป็น ‘หญิงงามเมือง’ เป็นอาชีพที่มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรีในสังคม แต่ในปัจจุบันอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย และกลายเป็นแหล่งทำเงินสำหรับกลุ่มอิทธิพลบางกลุ่ม
            ในขณะ ที่การให้บริการทางเพศเป็นอาชีพผิดกฎหมาย แต่รัฐกลับปล่อยให้มีการเปิดสถานค้าประเวณีกันมากมายนั้น ย่อมเป็นเพราะผู้ประกอบอาชีพต้อง ‘ส่งส่วย’ แก่ผู้รักษากฎหมายในระดับต่าง ๆ เป็นการสร้างอาชีพและความมั่งคั่งแก่กลุ่มอิทธิพลบางกลุ่มที่ประกอบการค้า ประเวณี กลุ่มอิทธิพลกลุ่มนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องย่อมขยายอิทธิพลกว้าง ขวางไปได้เรื่อย ด้วยเงินจำนวนมหาศาลจากการลอบประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมายนี้ ย่อมทำให้สุจริตชนถูกเบียดเบียนหรือไม่สามารถแข่งขันได้อย่างเสรี
            ใน ทางตรงกันข้ามหากสามารถทำให้อาชีพนี้ถูกกฎหมาย ก็จะเป็นการทะลายขุมทรัพย์ ‘ตัดท่อน้ำเลี้ยง’ ของเหล่าผู้มีอิทธิพล ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ อย่างครบวงจร ช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพให้บริการทางเพศมีรายได้มากขึ้น ไม่ถูกขูดรีดโดยผู้มีอิทธิพล รัฐมีรายได้จากภาษีอากรในการให้การศึกษาประชาชนในเรื่องนี้ และนำเงินมาพัฒนาประเทศได้มากขึ้น สุจริตชนไม่ถูกรังแกจากผู้มีอิทธิพล ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และสวัสดิภาพสังคมของประชาชนทั่วไปจะดีขึ้น และศีลธรรมจรรยาของประชาชนทั่วไปก็จะมีความมั่นคงมากขึ้นเช่นกัน
            การเปิดให้การให้บริการทางเพศเป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะไม่ยิ่งส่งเสริมให้อาชีพนี้ระบาด เพราะในปัจจุบันก็มีสถานค้าประเวณีอยู่ทั่วไปอยู่แล้ว แต่การที่ต้อง ‘ส่งส่วย’ หรือ ‘เสียค่าคุ้มครอง’ เช่นในปัจจุบันต่างหากที่ผู้ประกอบอาชีพนี้ต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อผลิต และส่งต่อเงินนอกระบบเหล่านี้ แต่หากอาชีพนี้ถูกกฎหมาย และได้รับการคุ้มครองที่ดี อาจยิ่งช่วยจำกัดการประกอบอาชีพที่ขาดความรับผิดชอบ กลายเป็นอาชีพที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
            สังคมจะยิ่งสงบสุขมากขึ้น เพราะ ‘ซาตาน’ ไม่อาจอยู่ในที่สว่าง มาช่วยกันรณรงค์ให้การให้บริการทางเพศเป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายกันเถอะ


"Motel" ที่มา: http://www.aktuelresim.com/Word/motel

อ้างอิง 
จรูญ วรรธนะสิน. โสเภณี อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก http://www.tuneingarden.com/work/b-04sn08.shtml
Swiss try drive-in 'sex boxes' for safer prostitution.www.usatoday.com/story/news/world/2013/08/26/switzerland-prostitution-sex-boxes/2700877/
20 Minutes Online. Qui sont les clients des prostitutes? www.20min.ch/ro/news/vaud/story/15213957 
What Does Jesus Think About Prostitution? http://whatdoesgodthinkaboutprostitution.blogspot.com
Prostitution in Europe. http://en.wikipedia.org/wiki/Prostitution_in_Europe
Prostitution. http://en.wikipedia.org/wiki/Prostitution

อ่าน 11,998 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved