ดร.โสภณฟ้องมติชน-ข่าวสดเสนอข่าวเท็จเรื่องป้อมมหากาฬ
  AREA แถลง ฉบับที่ 340/2559: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2559

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            มติชนและข่าวสดควรตรวจสอบนักข่าวของตนให้ดีว่ามีความเป็นกลางและความเป็นธรรมในการเสนอข่าวเรื่องป้อมมหากาฬหรือไม่ อย่าโยงให้ประชาชนเข้าใจผิด อย่าได้กลับขาวเป็นดำ

            เมื่อวันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2559 มติชนได้ลงข่าวว่า ‘ป้อมมหากาฬไม่โดดเดี่ยว’ คนแห่คล้องแขนหนุนสู้ต่อ ชาวบ้านลั่น ถอยไม่ได้อีกแล้ว" (http://bit.ly/2cugvE9) เป็นการหนุนคนทำผิดกฎหมายเหล่านี้อย่างชัดเจน  และไม่พบการลงข่าวในแง่มุมตรงข้ามบ้าง ทางกองบรรณาธิการพึงตรวจสอบจรยาบรรณของนักข่าวที่ทำข่าวและเสนอข่าวด้านเดียวหรือไม่ และที่ผ่านมา มติชน-ข่าวสด ก็นำเสนอข่าวอันเป็นเท็จในเรื่องนี้หลายครั้ง

            ข่าวสด เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559 (http://bit.ly/2ckb06M) ก็ลงข่าวเท็จว่า ". . . พล.ต.อ.อัศวิน (ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวว่า. . .จะรื้อ 12 จาก 13 หลัง ซึ่งทั้งหมดสมัครใจ  แต่จะไม่รื้อบ้านเลขที่ 99 ซึ่งเป็นบ้านโบราณของตระกูลอึ๊งภากรณ์ นายป๋วย อึ๊งภากรณ์ เคยพักอาศัยเป็นเวลา 2 ปี. . ."  นี่เป็นข่าวเท็จโดยแท้ ทั้งนี้ได้ตรวจสอบกับนายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดการกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ยืนยันได้ว่า ท่านรองผู้ว่าฯ ไม่ได้พูดเช่นนั้น

            วาทกรรมโกหกลวงโลกนี้ ยังปรากฏในสื่อ หวังลวงให้ประชาชนไขว้เขว ให้เห็นใจผู้ทำผิดกฎหมายที่ไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ ทั้งที่ที่ดินได้โอนให้ กทม. แล้ว เช่น “. . . บ้านหลังนี้สร้างตั้งแต่ปลายสมัย ร.5 เป็นบ้านของตระกูลอึ๊งภากรณ์ โดยป๋วย อึ๊งภากรณ์ เคยอยู่ 2 ปี แล้วย้ายออกไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2” (มติชน 28 ส.ค.59 16:36 http://bit.ly/2bXJnzB) เป็นต้น

            อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง เมื่อปี 2548 หรือ 11 ปีที่แล้ว "ทายาท "อึ๊งภากรณ์" โวย บ้านในป้อมมหากาฬไม่เกี่ยวข้อง ดร.ป๋วย" แต่ก็ยังมีคนเอาวาทกรรมหลอกลวงมาใช้อีก โดย "นางสุปรียา อึ๊งภากรณ์ ในฐานะผู้แทน นางอุไรวัลย์ อึ๊งภากรณ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 99 ชุมชนป้อมมหากาฬ แสดงความสงสัยถึงกรณีที่มีการติดป้ายหน้าบ้านหลังดังกล่าวว่าเป็นบ้าน ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ พร้อมชี้แจงว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของญาติทางฝ่ายแม่ ส่วน ดร.ป๋วย เป็นญาติทางฝั่งพ่อ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับบ้านหลังนี้

            นางสุปรียายังกล่าวว่า "ส่วนเรื่องของมีค่าไม่ว่าจะเป็นลวดลายต่างๆ ที่ตกแต่งบนตัวบ้านนั้น ก็ถูกแกะขายไปหมดแล้ว และคนที่อยู่ที่นั่นในตอนนี้ก็เป็นคนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ ไม่ใช่คนเก่า นางสุปรียา อึ๊งภากรณ์ กล่าวพร้อมระบุว่า ทางเจ้าของบ้านยินยอมให้ทาง กทม. รื้อถอนไปแล้วแต่ผู้อยู่อาศัยยังไม่ยอมไป โดยส่วนตัวก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง จึงขอมอบให้เป็นหน้าที่ของ กทม." (http://bit.ly/2c736Sm)

            ในความเป็นจริงแล้ว นางอุไรวัลย์ อึ๊งภากรณ์ ท่านเป็นสะใภ้ และได้รับมรดกจากนางจิบ บุรกิจ บ้านนี้จึงไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับตระกูล “อึ๊งภากรณ์” ตามที่มีผู้พยายามอ้าง และนางอุไรวัลย์ยังพยายามจะรื้อหลังจากได้รับเงินชดเชยจาก กทม. แล้ว แต่ชาวบ้านไม่ยอมให้เขารื้อบ้านของตนเอง เดือดร้อนจนต้องมาให้ กทม. รื้อถอนแทน โปรดดูเล่ห์กลที่น่าละอายของคนที่เรียกร้องไม่ยอมย้ายออกไป

            อย่าใช้ความเท็จเข้าสู้เพื่อประโยชน์ส่วนตน จริงๆ มีเพียง 16 ครัวเรือนที่ไม่ยอมย้าย นอกนั้นคนนอกที่ถูกปลุกปั่น โปรดคิดใหม่เสียบ้างว่าตนได้อยู่อาศัยฟรีๆ มานานแสนนานแล้ว เลิกเอาเปรียบสังคมได้แล้ว คืนสมบัติของแผ่นดินให้แก่ประชาชนไทยใช้ร่วมกันโดยรวมเถอะ

            บรรณาธิการของสื่อทั้งสองฉบับควรตรวจสอบการทำงานของนักข่าวในด้านจรรยาบรรณการนำเสนอข่าวบ้าง จะได้ไม่ร่วมทำร้ายสังคม ไม่ส่งเสริมการปล้นชิงสมบัติของประชาชนโดยรวม

ดูวิดิโอคลิก:http://bit.ly/2c10gtk
 

 

 

อ่าน 4,384 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved