อ่าน 1,055 คน
AREA แถลง ฉบับที่ 16/2554: 25 กุมภาพันธ์ 2554
ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกายังคงตกต่ำ น่าเป็นห่วง

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

ฟังบทสัมภาษณ์ออนไลน์..กรุณาคลิกที่ลิงค์:
http://www.housingyellow.com/streaming_media.php?dt=2554-02-25&fb=1

          จากผลการรายงานล่าสุดต่อสถานการณ์ราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาพบว่ายังตกต่ำต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ฟื้นตัวและส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
          ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอส้งหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้รวบรวมข้อมูลจากสำนักงานการเงินเคหะการแห่งสหรัฐอเมริกา และพบว่า ในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคมที่ผ่านมา ราคาตกต่ำลง 0.3% ราคาบ้านในไตรมาสที่ 4/2553 ตกต่ำลงกว่าไตรมาสที่ 3/2553 ในอัตรา 0.84% และราคาบ้านในช่วง 1 ปีคือ 2552-2553 ตกต่ำลง 3.35% ราคาที่อยู่อาศัยในวันนี้ใกล้เคียงกับราคาที่อยู่อาศัยในไตรมาสที่ 3 ของ พ.ศ.2548
          เดือนเมษายน 2550 เป็นเดือนที่ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด อย่างไรก็ตามราคาที่อยู่อาศัยตกต่ำมาโดยตลอดในช่วงปี 2550, 2551, 2552, และ 2553 ในอัตรา 1.3%, 8.5%, 1.5% และ 3.9% ตามลำดับ แสดงว่าสถานการณ์ได้ดีขึ้น แม้จะมีบางเดือนที่ราคาบ้านเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ตาม
          ในรายละเอียดของราคาที่อยู่อาศัยในเดือนธันวาคม 2553 พบว่า ราคาตกต่ำลงในแทบทุกพื้นที่ยกเว้นมลรัฐที่ติดกับเทือกเขา ได้แก่ มลรัฐมอนทานา ไอดาโฮ ไวโอมิง เนวาดา ยูทาห์ โคโลราโด อะริสโซนา และนิวเม็กซิโก ซึ่งราคากลับเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่หากไม่นับรวมพื้นที่นี้แล้ว แทบทุกภูมิภาคทั่วสหรัฐอเมริกา ราคายังตกต่ำอยู่มาก เชื่อว่าเมื่อมีการปรับค่าใหม่ในเดือนถัดไป ราคาบ้านจริงที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคมอาจจะมีการปรับลดลงเพิ่มเติมอีก
          อย่างไรก็ตามมลรัฐที่ยังตกต่ำหนักในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้แก่ ออรีกอน (10%) อะลาบามา (10%) จอร์เจีย (12%), อะริสโซนา (13.38%) และ ไอดาโฮ (15.82%) ในขณะที่รัฐที่ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 1 ปี ได้แก่ มลรัฐนอร์ทดาโกตา (5%), อะลาสกา (2.58%) ดิสทริกออฟโคลัมเบีย 1.39% และเวสต์เวอร์จิเนีย (0.03%)
          เมืองหลายแห่งในสหรัฐอเมริกามีปรากฏการณ์ที่อสังหาริมทรัพย์ตกต่ำหนักมาก ได้แก่ เมืองเมอร์เซต มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ราคาตกต่ำลง 60% เกาะเนเปิล มาโค มลรัฐฟลอริดา ราคาตกต่ำลง 44% จะสังเกตได้ว่าเมืองหรือมลรัฐที่ราคาบ้านตกต่ำลงมากเป็นพิเศษ ได้แก่พื้นที่ที่มีการเก็งกำไรในตลาดมากเป็นพิเศษ
          การซื้อขายบ้านในสหรัฐอเมริกาส่วนมากเป็นการซื้อขายบ้านมือสอง โดยบ้านมือหนึ่งปีหนึ่งมีการซื้อขายกัน 1.5-2.0 ล้านหน่วยต่อปี แต่ในช่วงตกต่ำ ลดลงเหลือประมาณ 0.5 ล้านหน่วยต่อปี ในขณะที่การซื้อขายบ้านมือสองมีอยู่ประมาณ 4 ล้านหน่วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การผ่องถ่ายขายบ้านในสหรัฐอเมริกา มีมากกว่าในประเทศไทยเป็นอย่างมาก
          ที่อยู่อาศัยที่มีปัญหาและถูกยึดโดยสถาบันการเงินในไทยมีเป็นจำนวนมาก บ้างก็ตกอยู่ที่กรมบังคับคดี แต่กระบวนการซื้อขายบ้านผ่านการประมูลของไทยยังมีประสิทธิภาพที่ไม่ดีพอ ทำให้บ้านเหล่านี้กลายเป็นความสูญเสีย และยิ่งทื้งนานวันไป ก็จะทำให้กลายเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยจึงควรปรับปรุงระบบการจำหน่ายบ้านมือสอง เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ประชาชนในการหาซื้อบ้านในราคาถูกกว่าบ้านใหม่ ซึ่งประชาชนจะมีเงินเหลือเพื่อไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ การตกแต่งต่อเติมต่าง ๆ ตลอดจนการเฉลิมฉลองการซื้อ-ขายบ้านใหม่ ทำให้เศรษฐกิจสะพัดกว่าการให้ประชาชนซื้อขายกันแต่บ้านมือหนึ่ง
          การลดภาษีและค่าธรรมเนียมโอน การลดดอกเบี้ย หรือการลดภาษีอื่น อาจให้ประโยชน์ต่อประชาชนผู้ซื้อบ้านในระดับหนึ่ง แต่ก็ค่อนข้างจำกัด และอาจต้อง “กินน้ำใต้ศอก” ผ่านผู้ประกอบการพัฒนาบ้านมือหนึ่ง แต่การให้ประชาชนเข้าถึงบ้านมือสองจากการประมูล อาจทำให้ประชาชนได้ส่วนลดมหาศาล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved