ตลาดพระรูป คลอง 2 แบบอย่างตลาดยุคใหม่
  AREA แถลง ฉบับที่ 543/2563: วันพุธที่ 09 กันยายน 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ตลาดพระรูป คลอง 2 โดยคุณดวงใจ แซ่เต๋ง นับเป็นแบบตลาดสดยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง น่าที่ผู้สนใจประกอบธุรกิจตลาดสด ตลาดนัด จะดูไว้เป็นแบบอย่าง

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในนามของโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้เชิญคุณดวงใจ แซ่เต๋ง เจ้าของตลาดพระรูป คลอง 2 มาบรรยายที่โรงเรียน และเคยพาคณะนักศึกษาของโรงเรียนไปเยี่ยมชมตลาดแห่งนี้ด้วย เห็นว่าเป็นตลาดที่เป็นแบบอย่างที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

            คุณดวงใจ แซ่เต๋ง เจ้าของตลาดเป็นผู้ที่นับถือ “เสด็จพ่อ ร.5” จึงตั้งชื่อตลาดว่า “ตลาดพระรูป” ซึ่งหมายถึง “พระรูปทรงม้า” แต่ชื่อนี้คงตั้งไม่ได้ จึงย่อเพียงตลาดพระรูป  คุณดวงใจเป็น “Royalist” จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เสมอๆ รวมทั้งเชิญชวนให้ผู้ค้าในตลาดและผู้ที่มาจับจ่ายในตลาดได้ร่วมกันทำกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ หลายครั้ง  แต่เดิมนั้นคุณดวงใจทำธุรกิจเสื้อผ้าส่งออก แต่ภายหลังธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ  จึงลองหันมาทำตลาดสดดู โดยตลาดนี้ทำมา 21 ปีแล้ว

            ในการวางแผนสร้างตลาดแห่งนี้ ก็ขึ้นป้ายขนาดใหญ่เพื่อให้แม่ค้ามาจองแผง ในการคัดแม่ค้ามาขายนั้น เริ่มต้นเปิดให้จอง มีแม่ค้ามาจองถึง 1,500 ราย  เจ้าของตลาดก็สามารถคัดเลือกแม่ค้ามาขายได้ ที่สำคัญตลาดยังได้เงินจองจากแม่ค้าเหล่านี้มาค่อยๆ สร้างตลาดแห่งนี้ไปด้วยเช่นกัน  แรกๆ เปิดสัปดาห์และ 3 วันก่อนในลักษณะเป็นตลาดนัด หลายคนจึงยังเรียกตลาดนี้ว่า “ตลาดนัดพระรูป”

            ตลาดแห่งนี้มีประมาณ 200 แผง ไม่ค่อยมีขาจร ส่วนใหญ่เป็นแม่ค้าขาประจำ ค่าเช่าเฉลี่ยวันละ 400 บาท ส่วนคนแก่-พิการขายฟรี ขายข้าวแกงวันละ 600 บาท เขียงหมูวันละ 1,000 บาท (เก็บเงินรายสัปดาห์)  ตลาดที่นี่มีทั้งตลาดเช้า แต่ตลาดหลักเป็นตลาดช่วงบ่าย-ค่ำ โดยแม่ค้าต้องมาเริ่มขายไม่เกินบ่าย 15:00 น. ขายได้ไม่เกิน 21:00 น.  แม่ค้ารายใดขายหมดก่อนก็ไม่สามารถเก็บร้านได้ ต้องเก็บพร้อมกัน  พอหมดเวลาขาย 15  นาทีตลาดก็จะปิดไฟทันทีเพื่อให้ทุกคนเก็บและเคลื่อนย้ายออกโดยไม่ชักช้า  ตลาดแห่งนี้มีที่จอดรถแม่ค้า คันละ 10 บาท ส่วนที่จอดรถลูกค้าที่มาซื้อของ จอดได้ 400 ค้น

            คุณดวงใจเช่าที่ดินมาทำตลาด โดยเช่า 100 ไร่ จ่ายค่าเช่าเดือนละประมาณ 500,000 บาท เป็นเวลา 30 ปี (ไม่มีค่าหน้าดิน) แต่ใช้พื้นที่จริงเพียง 30 ไร่  แต่เช่าทั้งหมด เพื่อว่าเจ้าของจะได้ไม่ให้คนอื่นเช่าส่วนด้านหลัง ซึ่งหากมีผู้เช่าอื่น ก็ต้องมีรถเข้าออก ซึ่งอาจรบกวนกิจการของตลาดได้  สำหรับการจ่ายค่าเช่าที่ดินตลาดแห่งนี้ คุณดวงใจจ่ายค่าเช่าตรงเวลาตลอด แม้ในช่วงน้ำท่วมใหญ่ ตลาดไม่สามารถเปิดขายได้ คุณดวงใจก็ยังจ่ายค่าเช่าไม่เคยขาด  ส่วนค่าน้ำไฟในตลาดนี้เป็นเงินประมาณ 200,000 บาทต่อเดือน

            จุดขายของตลาดมีหลายประการ เช่น

            1. แม่ค้าในตลาดแห่งนี้ต้องแต่งตัวสะอาด เรียบร้อย ทั้งนี้แรกๆ ก็มีแม่ค้าต่อว่า (ด่า) เช่นกันว่าระเบียบจัด แต่ก็เพื่อความอยู่รอดของตลาด 

            2. มีการล้างตลาดเดือนละ 1 ครั้งอีกด้วย เพื่อให้ตลาดสะอาด น่าเดิน

            3. ทุกวันอาทิตย์ยังมีกิจกรรมแจกของให้เด็ก กลายเป็นว่ามีวันเด็กทุกสัปดาห์ เป็นการดึงลูกค้า

            4. สินค้าต่างๆ ไม่แข่งขันกันเอง (สินค้าหนึ่งๆ มีไม่เกิน 3 แผง) เจ้าของตลาดไม่ขายสินค้าแข่ง ยกเว้น ข้าวสวย ซึ่งแต่เดิมให้แม่ค้าทำขาย แต่ทำได้ไม่ดีนัก คุณดวงใจเลยต้องขายเอง ปรากฏว่าขายได้วันละ 20,000 บาท ได้กำไรครึ่งต่อครึ่ง

            5. มีกิจกรรมขายสินค้าลดราคาเป็นระยะๆ เช่น ไปซื้อน้ำปลาจากโรงงานมาขายขวดละ 10 บาท น้ำมันปาล์มก็ขวดละ 20 บาท ไข่ไก่ฟองละ 1 บาท เป็นการล่อให้ผู้ซื้อมาซื้อกันล้นหลาม

            ตลาดแห่งนี้แรกๆ คนที่มีฐานะไม่เข้ามาใช้บริการ แต่พอตลาดติด เห็นว่าตลาดนี้มีคุณภาพและบริการดี ผู้คนทุกระดับก็มาใช้บริการ  สำหรับวิธีการเลือกทำเลนั้น อันที่จริงทำเลไม่ดีนัก เพราะอยู่ตรงคอสะพาน ทางฝั่งตะวันออกของคลอง 2  ผู้ที่จะเข้าต้องชะลอรถ  ถ้ามีรายอื่นเปิดในทำเลที่ตั้งก่อนถึงตลาดนี้ หรือหลังตลาดนี้ โดยเลี้ยวรถเข้าได้เลย อาจเกิดปัญหากับตลาดพระรูปได้  แต่โดยที่ตลาดแห่งนี้ “ติด” แล้ว จึงเสมือนไร้คู่แข่ง 

            ในสถานการณ์โควิด-19  ปรากฏว่าตลาดกลับเติบโตด้วยดี เพราะมีคนมาขายของมากขึ้นอีก  ฐานะของประชาชนไม่ค่อยดี ตกงาน จึงกลายมาเป็นแม่ค้าเป็นจำนวนมาก  ส่วนคนซื้อก็ไม่ลด เนื่องจากในช่วงแรกๆ ของการระบาดของโควิด-19 นั้น  ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็ปิดไปหมด ประชาชนจึงหันมาใช้บริการตลาดสด และที่สำคัญสินค้าในตลาดแห่งนี้ถูกกว่าในศูนย์การค้า

            คุณดวงใจดูแลแม่ค้าเป็นอย่างดี เช่น

            1. หากพ่อค้า-แม่ค้ามีปัญหาก็ให้ความช่วยเหลือเสมอ โดยเฉพาะปัญหาทางการเงิน เพื่อไม่ให้แม่ค้าต้องตกไปในวังวนของการกู้นอกระบบที่จ่ายดอกเบี้ยแสนโหด 

            2. คุณดวงใจยังให้แม่ค้ายืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย

            3. มีงานวันเกิดให้แม่ค้าอีกด้วย

            4. มีแจก “โบนัส” หรือรางวัล เช่น แม่ค้าที่ขายอยู่เกิน 5 ปี  ก็ได้เงิน 2,000 บาท อยู่ 10 ปี ก็ได้ 2,500 บาท เป็นต้น

            5. มีค่าทำศพ หรือฌาปนกิจสงเคราะห์ เป็นเงิน 10,000 บาท 

พวกเขาจะได้มีสมาธิประกอบสัมมาอาชีพในตลาดแห่งนี้ ทำให้ตลาดแห่งนี้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น  สำหรับสินค้าต่างๆ ถ้าขายไม่หมด ก็ให้ลดราคาและให้มีการซื้อขายกันเองเพื่อช่วยกันประคับประคอง

            ถ้าคิดจะลงทุนสร้างตลาด คุณดวงใจแนะนำว่า อย่าสร้างโครงสร้างอาคารตลาดขนาดใหญ่ ทำแบบบ้านๆ ดีกว่า เช่น แค่เทพื้นปูน เพราะถ้าทำตลาดสวยและใหญ่เกินไป คนจับจ่ายจะกลัวว่าสินค้าจะแพง เราจึงไม่ควรสร้างตลาดที่มีสภาพที่สวยหรือดีจนเกินไปในระยะแรก  ในการพัฒนาตลาดในระยะเวลา 14 เดือนก็สามารถรู้ผลได้แล้วว่าตลาดนั้นจะรอดหรือไม่  คุณดวงใจแนะนำว่าหน้าหมู่บ้านจัดสรรเหมาะที่จะทำตลาด (นัด) เป็นอย่างมาก

 

            ในขณะนี้ตลาดพระรูปยังมีในพื้นที่อื่นด้วยรวมแล้วประมาณ 5-6 สาขา โดยให้ “ลูกน้อง” ไปเปิด เช่น แถวบ้านสร้าง แยกอุทัย และอื่นๆ  โดยคุณดวงใจจะไปดูในจุดต่างๆ เป็นระยะๆ โดยไป (แทบ) ทุกวัน  ขณะนี้ตลาดพระรูป คลอง 2 ขยายตัวจนมี Mini Big C ที่ด้านหน้า และ “Take Over” ภัตตาคารแป๊ะฮกที่อยู่ด้านข้างซึ่งปิดไปเพราะพิษโควิด-19 ไปแล้ว  โดยที่ดินแปลงดังกล่าว คุณดวงใจซื้อมาในราคาประมาณ 40 ล้านบาท และตั้งใจจะพัฒนาเป็นตลาดระดับบนต่อไป 

            นี่คือตัวอย่างความสำเร็จของตลาดพระรูป  โดย คุณดวงใจ แซ่เต๋ง


ตลาดพระรูป คลอง 2 รังสิต
https://www.facebook.com/dr.sopon4/posts/3031244720321427
อ่าน 6,272 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved