มาตรการที่พึงมีก่อนให้ต่างชาติซื้ออสังหาฯ ในไทย
  AREA แถลง ฉบับที่ 675/2563: วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            เห็นนักพัฒนาที่ดินรายใหญ่ของไทยบางราย กระเหี้ยนกระหือรือที่จะให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเหลือเกิน  ดร.โสภณ แนะ ถ้าจะให้ฝันนี้เป็นจริง ต้องอุดช่องโหว่ขายชาติบางประการเสียก่อน หาไม่ชนรุ่นหลังจะตราหน้าให้ละอายว่าไอ้ “กบฏในราชอาณาจักร” ตัดแผ่นดินขายเพื่อเอาตัวรอดส่วนบุคคล

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เคยเป็นที่ปรึกษาในโครงการของกระทรวงการคลังและกระทรวงอื่นในกัมพูชา บรูไน เวียดนาม อินโดนีเซีย และยังเคยไปสำรวจวิจัยและบรรยายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาขององค์การสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น ESCAP FAO ILO UN Habitat มีความเห็นว่าก่อนที่รัฐบาลจะให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้อย่างเสรีในประเทศไทยนั้น พึงรู้ถึงประเทศอื่นว่าเขาทำอย่างไร จะได้ไม่เป็นการขายชาติ ขายแผ่นดิน ทำร้ายคนในชาติ

•    นิวซีแลนด์ เขาไม่ให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์เลย เพราะเป็นประเทศเล็กๆ ขืนให้ต่างชาติซื้อไปมาก ก็คงสูญเสียเอกราช ยกเว้นให้ชาติพันธมิตรเล็กๆ ด้วยกันบางประเทศซื้อได้ เช่น สิงคโปร์ เป็นต้น

•    ออสเตรเลีย ให้ต่างชาติซื้อได้เฉพาะบ้านมือหนึ่ง บ้านมือสองห้ามซื้อ เพราะจะดันราคาบ้านให้เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประชาชนออสเตรเลียเองเดือดร้อน รัฐบาลไทยจึงควรศึกษาไว้ จะได้ไม่ทำร้ายคนในชาติ

•    มาเลเซียให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ แต่ต้องมีราคา 1-2 ล้านริงกิต  หรือ 7.5-15 ล้านบาทขึ้นไป (แล้วแต่ทำเล) เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ซื้อสินค้าราคาถูกๆ เพราะจะทำให้ประชาชนชาวมาเลเซียเดือดร้อน  รัฐบาลไทยจึงควรศึกษาไว้ จะได้ไม่ทำร้ายคนในชาติอีกเช่นกัน

•    สิงคโปร์และฮ่องกง ไม่ได้จำกัดด้านราคาเพราะห้องชุดแต่ละหน่วยมีมูลค่านับสิบล้านบาทอยู่แล้ว แต่สิงคโปร์ให้ต่างชาติเสียภาษีซื้อ 20-25% ส่วนฮ่องกงให้เสียภาษีซื้อ 30% เพื่อปรามการเข้ามาของต่างชาติ กรณีนี้เป็นไปตามตรรกะการเสียภาษี เช่นเดียวกับคนไทยส่งลูกไปเรียนออสเตรเลีย ก็ต้องเสียค่าเล่าเรียนแพงกว่าปกติบ้าง เพราะเราไม่เคยเสียภาษีให้ประเทศเขาเลย  อยู่ดีๆ ไป “ชุบมือเปิบ” ไม่ได้ แต่ไทยแทบไม่เก็บภาษีซื้อเข้าหลวงเลย อย่างนี้เท่ากับเรา “ขายชาติ”

•    ไต้หวันมีนโยบาย 3-4-5 คือ ต่างชาติที่มาซื้อบ้านในไต้หวัน ต้องห้ามขายภายใน 3 ปีแรก เพื่อป้องกันการซื้อเก็งกำไร และอยู่ในไต้หวันได้ไม่เกิน 4 เดือนต่อปี ไม่ใช่มาฝังตัวเลย และกู้เงินธนาคารในไต้หวันได้ไม่เกิน 50% ของมูลค่าบ้าน  นี่ก็แสดงว่าเขาเห็นแก่คนในชาติมากกว่าคนต่างชาติ

•    ในยุโรปและอเมริกา  ยินดีให้ต่างชาติไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ แต่เขามีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ต้องเสียภาษีกันประมาณ 1-3% ของราคาประเมิน ซึ่งเท่ากับราคาตลาด แต่ในไทย ระบบภาษีนี้ไม่มีประสิทธิผล ต่างชาติก็ถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ต้องเสียภาษีเช่นอารยประเทศ แถมยังแทบไม่ต้องเสียภาษีมรดก  จะเห็นได้ว่าราคาประเมินราชการของไทย ต่ำกว่าราคาตลาดมาก ทั้งนี้เพื่อเอื้ออำนวยแก่ “เจ้าสัว” ในการเสียภาษีแต่น้อย

            จะเห็นได้ว่าอย่างในกรณีจีนเองที่อยากมาซื้อบ้านในไทย (ใจจะขาด) ก็ยังไม่ยอมให้แม้แต่พลเมืองของตนเองซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบขายขาด (ชั่วกัลปาวสาน) เยี่ยงในประเทศไทยเลย รัฐบาลจีนให้สิทธิแก่คนจีนแท้ๆ เช่าอสังหาริมทรัพย์ภายในระยะเวลา 70 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นก็ค่อยต่อสัญญากันไปหากยังมีชีวิตอยู่  ลูกหลานก็ต้องขวนขวายหาเอาเอง ไม่ใช่รอแต่รับมรดกจากพ่อแม่  รัฐบาลไทยต้องไม่เห็นแก่นายทุนใหญ่มากกว่าประชาชนเจ้าของประเทศและลูกหลานไทยในอนาคต

            มาตรการที่จำเป็นที่จะให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้นั้น ควรมีดังนี้:

  1. ให้ต่างชาติซื้อห้องชุดได้แต่ต้องมีราคาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพื่อป้องกันไม่ให้ต่างชาติมาดันราคาบ้านให้สูงขึ้น ทำให้ประชาชนไม่สามารถซื้อบ้านได้
  2. ภาษีซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับคนต่างชาติ ควรกำหนดไว้ที่ 10% ของมูลค่าตลาด เพื่อนำเงินจากการซื้อของต่างชาติมาพัฒนาประเทศ  พวกนี้ไม่เคยเสียภาษีให้ประเทศไทย ถ้าจะมาอยู่ในไทย ก็ควรเสียภาษีก่อน
  3. ภายใน 3 ปีแรกของการซื้อ ห้ามขายต่อ เพื่อป้องกันการมาซื้อเก็งกำไร
  4. มีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับชาวต่างชาติปีละ 0.5%-1% ของมูลค่าตลาด แต่เพื่อไม่ให้ต่างชาติเสียเปรียบคนไทย ก็ควรเก็บภาษีนี้กับคนไทยด้วย แต่ไม่ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเดือดร้อน แต่เก็บภาษีกับผู้มีทรัพย์สิน คนมีทรัพย์สินมากก็เสียภาษีมากแต่ในสัดส่วน (%) ที่เท่ากัน
  5. มีการจัดเก็บภาษีมรดก โดยยกเลิกกฎหมายภาษีมรดกฉบับปัจจุบันที่มีช่องโหว่ให้คนรวยเลี่ยงภาษีได้มากมายเสีย และจัดเก็บเหมือนนานาอารยประเทศ
  6. การหลบเลี่ยง จดทะเบียนผิดๆ ให้ต่างชาติถือครองอสังหาริมทรัพย์แบบฉ้อฉล การสวมบัตรประชาชนคนไทยเพื่อมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ควรได้รับการปราบปรามอย่างจริงจัง ข้าราชการที่เกี่ยวข้องต้องได้รับการลงโทษสถานหนัก

            คิดและทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชน และหยุดคิดขายชาติเพื่อตัวเองได้แล้ว และเมื่อสามารถทำการตามข้างต้นได้ ไทยเราก็จะไม่เสียเปรียบต่างชาติ

 

อ่าน 4,114 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved