น้ำใจงดงามของสาวอินโดฯ ทำผมสะอึก
  AREA แถลง ฉบับที่ 621/2564: วันจันทร์ที่ 06 กันยายน 2564

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            เรื่องดีๆ น่าประทับใจทำให้เราชื่นชมไปนานแสนนาน ผมประทับใจสุภาพสตรีชาวอินโดนีเซีย 2 ท่าน แต่ท่านหนึ่งทำให้ผมสะอึก ต้องคิดหนักมาก

            เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2555 หรือเมื่อ 9 ปีที่แล้วโดยนับถึงปี 2564) ซึ่งเป็นช่วงที่ผมกำลังสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนิเซีย ผมได้พบประสบการณ์สุดประทับใจของสุภาพสตรีชาวอินโดนีเซีย 2 ท่านซึ่งเป็นสามัญชนและดูท่าจะเป็นผู้มีรายได้น้อย เป็นประชาชนคนเล็กคนน้อยที่น่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง

            ในช่วงสายของวันดังกล่าว ผมลองนั่งรถประจำทางขนาดเล็ก ซึ่งที่นั่นไม่เป็นสองแถวแบบบ้านเรา แต่มีแถวเดียวโดยใช้รถไดฮัทสุขนาดเล็กๆ นั่งเรียงกันได้ประมาณ 6 คน ตอนนั่งก็ต้องระวังหัวไม่ให้กระแทกกับหลังคารถที่ค่อนข้างเตี้ยมาก ผมลองนั่งเพราะอยากเห็นการใช้ระบบขนส่งมวลชนของภาคประชาชนที่นั่น

            พอผมนั่งจนสุดสาย ถึงเวลาต้องจ่ายค่าโดยสารปรากฏว่าผมมีแต่ธนบัตรใบราคาแพงคล้ายแบงค์ 500 หรือแบงค์พันของบ้านเรา  เจ้าของรถก็ไม่มีทอน ผมก็ได้แต่เลิกลักอยู่พักใหญ่ มองหาร้านค้าแตกเงินก็คงไม่ได้ ปรากฏว่า “ป้า” คนหนึ่งที่คงรุ่นราวใกล้เคียงกับผมและนั่งมาตลอดทางข้างๆ ผมช่วยออกค่าโดยสารให้ผมซะงั้น

            ค่าโดยสารก็คงไม่แพง แต่ผมประทับใจในตัวสุภาพสตรีท่านนี้ซึ่งก็เป็นชาวบ้าน ประชาชนคนเล็กคนน้อยธรรมดา แต่ยังเมตตา ออกค่าโดยสารให้คนแปลกหน้าแปลกถิ่นเยี่ยงผม ผมก็ได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณสุภาพสตรีท่านนี้และขอถ่ายรูปร่วมกันไว้เป็นที่ระลึก ก่อนจะแยกย้ายกันไป

            หลังจากนั้นในช่วงบ่าย ผมก็ลองนั่งรถประจำทางพิเศษคล้ายรถ BRT (Bus Rapid Transit) ของกรุงเทพมหานครของเรา แต่ที่นั่นเขาเรียกว่า Busway  กรุงจาการ์ตาอาจถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงของ BRT เพราะมีจำนวน BRT หลายสายเหลือเกิน มากกว่าจำนวนสายของ BRT ที่เกิดขึ้นครั้งแรก ณ กรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบียเสียอีก

            ผมเดินขึ้นรถ BRT ปรากฏว่าที่นั่งเต็ม ผมจึงเดินชิดในไปยืนอยู่หน้าสุภาพสตรีสาวสวยแต่งตัวธรรมดาแบบบ้านๆ คนหนึ่งซึ่งในมือถือตะกร้าเปล่าเอาไว้ ทันใดนั้นสาวสวยคนนั้นก็ลุกขึ้นแล้วผายมือให้ผมนั่งแท่น เราพูดกันไม่รู้เรื่องเพราะเธอไม่พูดภาษาอังกฤษ ผมก็ไม่พูดภาษาบาฮาซาของอินโดนีเซีย เธอช่างมีน้ำใจงดงามและจิตใจกว้างขวางเหลือเกิน

            อย่างไรก็ตามน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของเธอผู้นี้ ทำให้ผมสะอึกหนักมาก กล่าวคือถ้าผมยอมนั่งลง ก็แสดงว่าผมแก่มากแล้ว ทั้งที่ตอนนั้นผมอายุเพียง 54 ปี ผมก็ยอมรับว่าใบหน้าของผม อาจแก่เกิน 60 ปีไปมากแล้ว แต่ถ้าผมไม่รับน้ำใจของเธอเธออาจเสียหน้าและเสียใจมาก ผมจึงลังเลมาก ถ้าเป็นท่านๆ จะตัดสินใจอย่างไรดีครับ

            ผมสะอึกอยู่พักหนึ่งก็ตัดสินใจนั่งลงตามน้ำใจอันงดงามของสาวสวยท่านนี้ แต่ผมก็นั่งเพียงสองป้ายแล้วก็ขอลง เพื่อให้เธอได้นั่งลงต่อไป ผมก็ไม่ทราบว่าเธอจะไปต่ออีกมากน้อยแค่ไหน  แต่ผมก็เพียงขึ้นมาลิ้มรสระบบขนส่งมวลชนแบบ BRT ในเส้นทางต่างๆ เท่านั้น  และก่อนลงผมก็ขอถ่ายภาพร่วมกับเธอไว้เป็นที่ระลึก  ช่วงนั้น LINE กับ WhatsApp ยังไม่แพร่หลาย ผมจึงไม่ได้ขอเธอไว้

            ผมชื่นชมของสุภาพสตรีอินโดนีเซียทั้งสองนี้ตลอดมา และเนื่องในโอกาสครบรอบ 9 ปีในวันนี้ (ณ พ.ศ. 2564) ซึ่งผมพบภาพถ่ายเก่า ผมจึงนำภาพมาแสดง และเขียนบทความสรรเสริญทั้งสองท่านไว้ ณ ที่นี้ ผมไปกรุงจากาตาร์อีกหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยพบสุภาพสตรีทั้งสองท่านนี้อีกเลย ขอความดีที่ท่านทั้งสองได้ประกอบจงคุ้มครองท่านและครอบครัวให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

            นี่แหละน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ แต่ยิ่งใหญ่ของประชาชนคนเล็กคนน้อยที่พบเห็นได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ

อ่าน 1,572 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved