อ่าน 1,663 คน
AREA แถลง ฉบับที่ 27/2557: 20 กุมภาพันธ์ 2557
การเมืองกับอสังหาริมทรัพย์

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
sopon@area.co.th

          การเมืองในปัจจุบันก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในราคาทรัพย์สินอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้นำเสนอผลการสำรวจวิจัยเบื้องต้นในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดังนี้

          1. อสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้า ซึ่งประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า และพื้นที่ค้าปลีกอื่น มีพื้นที่รวมกันประมาณ 6 ล้านตารางเมตร มีอัตราว่าง 5% มีค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 900 บาทต่อตารางเมตร และมีรายได้สุทธิจากการให้เช่าประมาณ 50% และ ณ อัตราผลตอบแทน 12% ต่อปี ทำให้มูลค่าพื้นที่ค้าปลีกทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอยู่ประมาณ 256,500 ล้านบาท
          2. สำหรับอาคารสำนักงานมีอยู่ประมาณ 8 ล้านตารางเมตร มีอัตราว่าง 10% มีค่าเช่าเฉลี่ย 400 บาทต่อตารางเมตร และมีรายได้สุทธิประมาณ 60% ของค่าเช่า และ ณ อัตราผลตอบแทนที่ 7% ทำให้มีมูลค่าประมาณ 296,229 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าพื้นที่ค้าปลีกเล็กน้อย
          3. ในกรณีโรงแรม ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 80,000 ห้อง แต่ละห้องน่าจะมีมูลค่าเฉลี่ย 1.5 ล้านบาท ทำให้มูลค่าของโรงแรมทั้งหมดคือ 120,000 ล้านบาท
          4. ในส่วนของที่อยู่อาศัยทั้งหมดมีอยู่ 4.6 ล้านหน่วย แต่ละหน่วยมีมูลค่า 1.8 ล้านบาท (ถ้าเป็นสินค้าใหม่จะมีราคา 3 ล้านบาท) จึงทำให้มูลค่าของที่อยู่อาศัยโดยรวมคือ 8.28 ล้านล้านบาท
          5. ดังนั้นอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจึงมีมูลค่า 8.952,729 ล้านบาท และตามอัตราความเสี่ยงของประเทศไทย ตามการศึกษาของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (โปรดดูอ้างอิงตามตาราง) คือ 7.1% หากสมมติให้อัตราความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 0.5% เพราะการเมืองในปัจจุบัน ก็จะทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดลง 588,995 ล้านบาท
          อย่างไรก็ตามการลดลงเช่นนี้เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า หากบ้านเมืองสงบลง ราคาก็ยังกลับเพิ่มขึ้นเช่นเดิม กรณีนี้เทียบได้กับ
          1. ในกรณีอียิปต์ ซึ่งปัจจุบันถึงขนาดไล่นักท่องเที่ยวออกนอกประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อบ้านเมืองสงบ ก็คงทำให้สภาพกลับสู่ภาวะเดิม
          2. การจลาจลในกรุงลอนดอน กรุงปารีส หรือแม้แต่กรณี 9/11 ในนครนิวยอร์ก ก็ส่งผลเพียงในระยะสั้นเท่านั้น ไม่มีผลในระยะยาว

          ดังนั้น 'ซูเปอร์พาวเวอร์' ของไทยจึงควรหาทาง 'สงบศึก' โดยเร็ว เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เช่น ในกรณีกรุงพนมเปญ ซึ่งเคยเป็น 'ปารีสแห่งตะวันออก' หรือนครโฮชิมินห์ซิตี้ และนครย่างกุ้ง ก็เคยเจริญทัดเทียมกับกรุงเทพมหานคร แต่เพราะเกิดสงครามกลางเมือง จึงทำให้ความเจริญน้อยกว่าไทยในปัจจุบัน

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved