อาบอบนวด: ธุรกิจที่ไร้อนาคตจริงหรือ
  AREA แถลง ฉบับที่ 1019/2566: วันศุกร์ที่ 01 ธันวาคม 2566

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

             หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าธุรกิจอาบอบนวดกำลังอัสดง คนเที่ยวน้อย คนให้บริการก็น้อยลง ถูก Disrupt ด้วยการให้บริการ online จริงหรือไม่ มาดูข้อเท็จจริงบางประการ

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ซึ่งรวมถึงอาบอบนวดด้วย ให้ความเห็นว่า เป็นความจริงที่ธุรกิจนี้กำลังถดถอยลง แต่คงไม่ถึงขนาดล้มหายตายจากไป เช่น ธุรกิจโรงเรียนเอกชน ที่ล้มระเนระนาดไปในช่วงก่อน แต่โรงเรียนเอกชนชั้นดีที่หลงเหลืออยู่และปรับตัวได้ก็สอนเป็นแบบสองภาษาก็กลับเฟื่องฟูในขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งมีการเปิดบริการใหม่ๆ

            มาลองดูข้อโต้แย้งบางประการ

            1. ธุรกิจ Delivery อาบอบนวดถึงบ้าน หรือเด็กเอ็นสีเทานั้น บางทีก็ไม่ตรงปก

            2. การมีตัวกลาง-เชียร์แขก ไม่ใช่สูญเงินเปล่า แต่เป็นการประกันในระดับหนึ่งว่าได้ “สินค้า” ที่มีคุณภาพในระดับหนึ่ง

            3. การมีตัวกลางคือผู้จัดสถานที่ให้นั้น เขามักจัดอย่างมืออาชีพ สะดวกสบาย

            4. การนัดหมายให้ผู้ให้บริการไปยังสถานที่ส่วนตัว อาจทำให้ “เสียลับ” ของตนเองได้

            5. การมีให้เลือกหน้ากระจกน่าจะมั่นใจในสินค้าและบริการมากกว่า

6. ที่ว่าผู้ให้บริการเขินอายที่จะนั่งในตู้กระจก ก็ไม่น่าจะจริงเพราะมีมานานแล้ว ส่วนประเภท Sidelines พิเศษ ก็มีให้เลือกต่างหาก

            7. ที่เกรงว่าผู้ใช้บริการ (หน้าใหม่) จะอายที่มานั่งเลือกผู้ให้บริการ ก็อาจมีบ้างแต่มักเป็นเฉพาะในช่วงแรกๆ

            8. ที่ว่าหากเชิญมาถึงสถานที่ของตนเองอาจประหยัดเวลาก็เป็นเรื่องจริง แต่การไปใช้บริการถึงสถานที่จริง ก็อาจประหยัดเวลาได้เช่นกัน โดยเฉพาะที่เป็นทางผ่าน

            ในปัจจุบันโรงแรม 3 ดาวทั่วไปอาจมีอัตราการเข้าพัก 60% หากมีห้องพัก 100 ห้อง และมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 1,000 บาท ก็จะเป็นเงินเดือนละ 1,800,000 บาทต่อเดือน  อย่างไรก็ตามหากเป็นในกรณีอาบอบนวด 100 ห้อง หากได้ค่าห้องสุทธิเพียง 600 บาทต่อห้อง (ตามภาวะตลาดในปัจจุบัน) แต่มีคนมาใช้บริการวันละ 1 รอบ ก็จะได้เงิน 1,800,000 บาท/เดือนเช่นกัน แต่รายได้ทางอื่น เช่น อาหารเครื่องดื่ม น่าจะได้มากกว่าโรงแรมทั่วไป ดังนั้นในชั้นนี้ โอกาสที่อาบอบนวดจะล้มหายตายจากไปจึงยังมาไม่ถึง หากยิ่งมีการผสานระหว่างการเป็นโรงแรมกับการเป็นโรงนวด การเป็นร้าน Spa (ชั้นค่อนข้างดี) ก็ยิ่งจะมีโอกาสมากขึ้นในการดำรงอยู่

            อย่างไรก็ตามหากราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นเพราะตั้งอยู่ในทำเลดี ก็น่าจะขายกิจการทิ้งได้ เช่น ในกรณีโรงนวดหรือโรงแรมที่สร้างรายได้สุทธิได้เดือนละ 1,800,000 บาท หรือปีละ 21,600,000 ล้านบาท ก็จะมีมูลค่ารวม 270 ล้านบาท (ณ อัตราผลตอบแทนที่ 8%) หากที่ดินที่ตั้งโรงการมีขนาด 1.5 ไร่โดยประมาณ ก็เท่ากับเป็นที่ดินในราคา 450,000 บาทต่อตารางวา (ตัดทิ้งค่าสิ่งก่อสร้างและอื่นๆ) ดังนั้นหากราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านบาทต่อตารางวา การขายกิจการทิ้งจึงจะดีกว่า ไม่ต้องยุ่งยากในการทำธุรกิจนี้ หรืออาจนำเงินไปทำธุรกิจอื่นก็ได้

            อาบอบนวดที่เลิกกิจการไปจึงเป็นอาบอบนวดในทำเลดีที่เหมาะกับการทำอาคารชุดมากกว่า แต่ถ้าเป็นในทำเล “ลับๆ ล่อๆ” ราคาที่ดินที่ไม่สูงเกินไป ก็ยังไปต่อได้

 

อ่าน 1,300 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved