อสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ ธันวาคม 2567 ลดลง
  AREA แถลง ฉบับที่ 0091/2568: วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2568

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

               

                โครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนธันวาคม 2567 ลดลงอย่างมากเนื่องจากมีวันหยุดยาวช่วงคริสมาสต์ถึงเทศกาลปีใหม่ โดยจำนวนโครงการลดลง 64% จำนวนหน่วยลดลง 73.5% มูลค่าลดลง 80%

                ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวถึง ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปิดตัวโครงการใหม่  18 โครงการ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 32 โครงการ (เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีโครงการเปิดขายใหม่ 50 โครงการ) เป็นประเภทที่อยู่อาศัย 15 โครงการ และอสังหาริมทรัพย์อื่นอีก 3 โครงการ

                ในด้านจำนวนหน่วย พบว่ามีหน่วยเปิดใหม่ในเดือนนี้ทั้งหมด 2,780 หน่วย ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 73.5% (เดือนพฤศจิกายน 2567 มีจำนวน 10,501 หน่วย) ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ อาคารชุด มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่รวม 1,936 หน่วย (69.6%) รองลงมา คือ บ้านเดี่ยว 560 หน่วย (20.1%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านแฝด 172 หน่วย (6.2%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนธันวาคม 2567

                ในด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่ในเดือนธันวาคม 2567 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 16,036 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 80% (เดือนพฤศจิกายน 2567 มีมูลค่า 80,490 ล้านบาท)  ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัย พบว่า อาคารชุดที่เข้าสู่ตลาดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาถูกถึงราคาปานกลาง บ้านเดี่ยวมีระดับราคาปานกลางถึงราคาสูง ส่วนทาวน์เฮ้าส์จะมีระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงเป็นสำคัญ

                ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยวมีมูลค่า 9,243 ล้านบาท (57.6%) รองลงมา คือ อาคารชุดมีมูลค่า 4,370 ล้านบาท (27.2%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านแฝด 738 ล้านบาท (4.6%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่ หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นพัฒนาที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์เน้นพัฒนาที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดจะเน้นพัฒนาที่ราคา 1-2 ล้านบาท เป็นสำคัญ

                ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยในเดือนนี้ปรับลดลงประมาณ -24.7% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน โดยราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 5.769 ล้านบาท แต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 7.665 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเดือนนี้ หากเป็นแนวราบจะเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยเจาะกลุ่มผู้ที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงขึ้นไปที่ไม่ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจและต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง ส่วนอาคารชุดเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนทำงานหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่รวมถึงนักลงทุน

                หากพิจารณาระดับราคาขาย จะพบว่า มีหน่วยขายในแต่ละระดับราคาดังนี้

                ระดับราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวน 1,365 หน่วย (50.2%) มีมูลค่าโครงการ 2,606 ล้านบาท (17.8%)

                ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวน 517 หน่วย (19.0%) มีมูลค่าโครงการ 1,337 ล้านบาท (9.1%)

                ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวน 275 หน่วย (10.1%) มีมูลค่าโครงการ 1,148 ล้านบาท (7.8%)

                ระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 560 หน่วย (20.7%) และมีมูลค่าโครงการ 9,575 ล้านบาท (65.3%)

 

                พิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 18.6% ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 26.6% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุด คือ อาคารชุดระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท จำนวน 1,365 หน่วย ขายได้แล้ว 28.4% รองลงมา คือ อาคารชุดระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท จำนวน 385 หน่วย ขายได้แล้ว 16.9% และอันดับ 3 คือ อาคารชุดระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท จำนวน 160 หน่วย ขายได้แล้ว 16.3%

                เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 6 บริษัท คือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย  จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ

                ในด้านทำเลที่ตั้ง จะพบว่าในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นใน จำนวน 2 โครงการ ในย่านวชิรธรรมสาธิต และพัฒนาการ ส่วนโครงการที่ตั้งอยู่ในเขตชั้นกลาง และส่วนต่อขยายของเมือง (Intermediate area) มีจำนวน 11 โครงการ เช่น พหลโยธิน รามอินทรา พระราม 2 อุทยาน เป็นต้น นอกจากนี้ส่วนที่เหลือจำนวน 5 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่รอบนอก ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งงาน ห้างสรรพสินค้า เช่น คลองหลวง บางกรวย-ไทรน้อย บางศรีเมือง ราชพฤกษ์ เป็นต้น  

 

 

อ่าน 271 คน
2025 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved