ดร.โสภณเป็นรองประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย
  AREA แถลง ฉบับที่ 0401/2568: วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

           ในวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2568 ในที่ประชุมใหญ่ประจำปีของสภาองค์การนายจ้างแห่งประทศไทย (www.ecot.or.th) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมให้เป็นรองประธานสภาฯ

 

เกี่ยวกับสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย

            สืบเนื่องจากการที่หอการค้าไทย ซึ่งเป็นองค์กรรวมของผู้ประกอบการค้าในประเทศไทยกับสมาคมอุตสาหกรรมไทย ได้มีความเห็นร่วมกัน ว่าสมควรได้จัดให้มีสำนักงานทางวิชาการทางด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมขึ้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันทั้งสอง ให้สามารถดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุผลสำเร็จ ตามวัตถุประสงค์ของสถาบันทั้งสอง

            และต่อมาได้ประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2517 และได้มีมติร่วมกันให้ก่อตั้งสำนักงานวิชาการธุรกิจและอุตสาหกรรมขึ้น โดยเป็นสำนักงานทางวิชาการที่จะให้บริการทั้งหอการค้าไทย และสมาคมอุตสาหกรรมไทย โดยมีคณะกรรมการบริหารมาจากทั้งสองสถาบัน ในขั้นแรกกำหนดวัตถุประสงค์ไว้ดังต่อไปนี้

  • เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการสาขาต่างๆ
  • เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการภาคเอกชนและภาครัฐบาล
  • เพื่อส่งเสริมการแรงงานสัมพันธ์
  • เพื่อส่งเสริมการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบการของภาคเอกชนและวิทยาการทางการจัดการ

            คณะกรรมการบริหารสำนักวิชาการธุรกิจและอุตสาหกรรมหอการค้าไทยและสมาคมอุตสาหกรรมไทย ได้บริหารกิจารของสำนักงานวิชาการธุรกิจและอุตสาหกรรมด้วยดีตลอดมา

            ในช่วงดังกล่าวปรากฎว่ามีปัญหาทางด้านแรงงานเป็นอันมาก ซึ่งสมาชิกของสำนักวิชาการธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างประสบความยุ่งยากทางด้านแรงงานเพราะมีการยื่นข้อเรียกร้องและนัดหยุดงานบ่อยครั้งและมีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการและกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

            ประกอบกับได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับแรงงานสัมพันธ์เอาไว้เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงาน โดยเฉพาะได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรของฝ่ายลูกจ้างและองค์การของฝ่ายยนายจ้าง คือสหภาพแรงงานและสหพันธ์แรงงานกับสมาคมนายจ้างและสหพันธ์นายจ้างขึ้นเพื่อใช้เป็นองค์กรหรือสถาบันที่เป็นกลไกในการเจรจาต่อรองร่วมกัน เพื่อหาข้อยุติข้อพิพาทแรงงาน ซึ่งเชิญบรรเทาปัญหาการเผชิญหน้ากันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างโดยใช้องค์กรของแต่ละฝ่ายมาเจรจาต่อรองกัน

            ดังนั้นในการประชุมคณะกรรมการบริหารสำนักวิชาการธุรกิจและ อุตสาหกรรมครั้งที่ 1/2518 วันที่ 19 พฤษภาคม 2518 ที่ประชุมจึงมีมติให้ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งสมาคมนายจ้างต่างๆขึ้นตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 โดยให้สำนักวิชาการธุรกิจ และอุตสาหกรรมทำหน้าที่เป็นสำนักเลขาธิการกลางของสมาคมนายจ้างต่างๆซึ่งที่ประชุมได้มีเหตุผลในการลงมติดังต่อไปนี้

  • เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งระบุให้มีการจัดตั้งสมาคมนายจ้างได้
  • เพื่อให้การเจรจาต่อรองระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ทั้งนี้ เพราะการเจราจต่อรองกระทำโดยผ่านองค์กร
  • ของนายจ้างลูกจ้างได้กระทำในรูปขององค์กร โดยมีผู้แทนของแต่ละฝ่าย กล่าวคือ ผู้แทนนายจ้างและผู้แทนลูกจ้าง ซึ่งมาจากองค์กรของฝ่ายตนมาร่วมเจรจา
  • เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ทั้งนี้ เพราะการเจรจาต่อรองกระทำโดยผ่าน
  • องค์กรของนายจ้างและลูกจ้าง จะทำให้ลดการเผชิญหน้ากันโดยมีสหภาพแรงงานกับสมาคมนายจ้างส่งผู้แทนมาทำการเจรจาต่อรองกัน
  • เพื่อให้การเจรจาต่อรองกันมีน้ำหนักและแก้ปัญหาแรงงานได้อย่างจริงจัง เพราะการเจราจาในรูปของสมาคมนายจ้างกับสหภาพแรงงานจะมีน้ำหนักและได้รับความเชื่อถือมากกว่านายจ้างทำการเจรจาเป็นรายบุคคลด้วยตนเอง

            จากมติที่ประชุมดังกล่าว จึงได้เริ่มดำเนินการก่อตั้งสมาคมนายจ้างต่างๆขึ้น โดยสำนักวิชาการธุรกิจและอุตสาหกรรมเป็นผู้ประสานงานในการดำเนินการก่อตั้งและจดทะเบียนตามกฎหมายโดยเริ่มต้นด้วยกัน             จดทะเบียนสมาคมนายจ้างเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาคมนายจ้างอุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ สมาคมนายจ้าง-อุตสาหกรรมห้องเย็น สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งท่อไทย สมาคมนายจ้างช่างเหมาไทย และได้มีสมาคมนายจ้างอื่นๆ ได้ดำเนินการก่อตั้งและจดทะเบียนที่สำนักงานทะเบียนกลาง ซึ่งได้แก่สมาคมนายจ้างโรงแรมกรุงเทพฯ   สมาคมนายจ้างโรงแรมพัทยา สมาคมนายจ้างเจ้าของเรือขนส่งทางน้ำ สมาคมนายจ้างร้านตัดเสื้อแห่งประเทศไทย และสมาคมนายจ้างเวชภัณฑ์ สมาคมนายจ้างต่างๆ ได้ดำเนินกิจการ ภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ของบทบัญัติของพระราชบัญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518

            การก่อตั้งสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย ปรากฏเป็นจริงขึ้นเมื่อสมาคมนายจ้างต่างๆ ที่ก่อตั้งขึ้นแล้วนั้นได้มาประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2519 เวลา 10.00 น. ณ ห้องหมิง โรงแรมอินทรา รีเจนต์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ประชุมลงมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดตั้ง สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยขึ้นและยังมอบหมายให้สำนักวิชาการธุรกิจและอุตสาหกรรมทำหน้าที่เป็นสำนักเลขาธิการของสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยต่อไป

            สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาในขณะนั้นมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเหมือนกับสมาคมนายจ้างหรือสหพันธ์นายจ้าง เพราะไม่มีกฎหมายใดๆรองรับหรือบังคับให้จดทะเบียน แต่เมื่อมีการปฏิรูปการปกครองแผ่นดินในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้มิคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 46 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519  แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 กำหนดให้สภาองค์การนายจ้างต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้จดทะเบียน จึงได้จัดประชุมขึ้น เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2519 เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ที่ประชุมมีมติให้จดทะเบียนสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยโดยได้รับมอบหมายให้ ร.ต.ท.ชาญ มนูธรรม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ดำเนินการจดทะเบียน และได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2520 ได้หมายเลขทะเบียนที่ ก.ธ.1

            ผู้เริ่มก่อการในการจดทะเบียน สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยผู้แทนสมาคมนายจ้างต่างๆที่เป็นสมาชิกสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยจำนวน 7 นาย ดังนี้

  • นายอบ วสุรัตน์  ประธานกรรมการสมาคมนายจ้างเวชภัณฑ์
  • ร.ต.ท.ชาญ มนูธรรม  ประธานกรรมการสมาคมนายจ้างเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • ร.ท.วันชัย บูลกุล  ประธานกรรมการสมาคมนายจ้างโรงแรมพัทยา
  • นายรังษี ชีวเวช  ประธานกรรมการสมาคมนายจ้างเจ้าของเรื อขนส่งทางน้ำ
  • นายแพทย์ชัยยุทธ กรรณสูต  ประธานกรรมการนายจ้างช่างเหมาไทย
  • นายสุจินต์ เบญจรงคกุล  ประธานกรรมการสมาคมนายจ้างโรงแรมกรุงเทพฯ          

            คณะกรรมการชุดแรกของสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย ได้ปฏิบัติภาระหน้าที่ต่อเนื่องมาด้วยดีและได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการตามวาระการดำรงตำแหน่ง ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง มีคณะกรรมการเข้าดำรงตำแหน่ง จำนวน 11 ชุด โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ดังต่อไปนี้

  • นายอบ วสุรัตน์                     2520-2522
  • ร.ต.ทงชาญ มนูธรรม             2522-2524
  • นายบรรเจิด ชลวิจารณ์           2524-2526
  • นายบรรเจิด ชลวิจารณ์           2526-2528
  • นายอุดม วิทยะสิรินันท์           2528-2530
  • นายอุดม วิทยะสิรินันท์           2530-2532
  • นายจิรายุทธ์ วสุรัตน์              2532-2534
  • นายจิรายุทธ์ วสุรัตน์              2534-2536
  • ดร.ทิวา ธเนศวร                    2536-2538
  • นายอนันตชัย คุณานันทกุล      2538-2558
  • นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล       2558-ปัจจุบัน

            ปัจจุบันสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยได้ดำรงกิจการตามวัตถุประสงค์อยู่ในขอบเขตของบทบัญญัติของกฎหมาย  และข้อบังคับของสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยจนเจริญก้าวหน้าขึ้นมาเป็นลำดับและในปี 2566 มีสมาคมนายจ้างสมัครเข้าเป็นสมาชิกรวมทั้งสิ้น 47 สมาคม และมีสถานประกอบการที่สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมทบผู้ให้การสนับสนุนจำนวนทั้งสิ้น 600 ราย

            วัตถุประสงค์

  • เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างธุรกิจในสาขาต่างๆ
  • เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจเอกชนและภาครัฐ
  • เพื่อส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
  • เพื่อส่งเสริมการศึกษาภาคธุรกิจเอกชนและสนับสนุนให้มีการจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิผล

 

อ่าน 35 คน
2025 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved