อ่าน 2,827 คน
AREA แถลง ฉบับที่ 60/2558: วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2558
สถานการณ์ตลาดบ้านเดี่ยวราคาเกิน 10 ล้านบาท

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
sopon@area.co.th

          ในภาวะปัจจุบันการขายโครงการที่อยู่อาศัยเกิดภาวะฝืดเคือง โดยเฉพาะปี 2557 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าการขายบ้านค่อนข้างฝืด และการเปิดตัวโครงการใหม่ก็น้อยกว่าปี 2556 ถึงประมาณ 13% อย่างไรก็ตามสำหรับบ้านระดับราคาสูงสถานการณ์กลับไม่ได้ตกต่ำลง
          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่าตลาดบ้านเดี่ยวในราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปนั้น อาจไม่มีการนำเสนอมากนัก อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา บ้านเดี่ยวในระดับราคานี้สามารถขายได้ถึง 850 หน่วย รวมมูลค่าสูงถึง 16,388 ล้านบาท หรือหน่วยละ 19 ล้านบาท  อีกนัยหนึ่ง ยังมีเศรษฐีจำนวนเกือบพันรายที่มีเงินซื้อบ้านระดับราคาแพง ซึ่งคล้ายกับตลาดรถยนต์ราคาแพง ก็ยังมีเศรษฐีอุดหนุนกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
          ตลาดบ้านเดี่ยวในราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปนี้ ส่วนมากพัฒนาโดยบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 734 หน่วย จาก 850 หน่วย หรือหากในแง่มูลค่าของหน่วยที่ขายได้จะเป็นเงิน 14,335 ล้านบาท จากทั้งหมด 16,388 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ขายได้ทั้งหมด 116 หน่วย รวมมูลค่า 2,053 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินหน่วยละ 18 ล้านบาท
          บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ขายบ้านเดี่ยวราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปในมูลค่าสูงสุด ถือเป็นผู้นำในตลาดนี้ โดยขายได้ 139 หน่วยในปี 2557 รวมมูลค่า 3,670 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 26.4 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาเฉลี่ยบ้านระดับบนที่สูงที่สุด มูลค่าการขายของบริษัทนี้มีสัดส่วนประมาณ 22% ของตลาดบ้านราคาแพงทั้งหมด และหากเทียบเฉพาะกลุ่มบริษัทมหาชนก็จะมีสัดส่วนมูลค่าเท่ากับ 26% จึงถือเป็นผู้นำตลาดอยู่ในขณะนี้
          อันดับที่สองได้แก่ บมจ.แสนสิริ ซึ่งขายได้ 119 หน่วยในปี 2557 รวมมูลค่า 2,923 ล้าน หรือเฉลี่ยหน่วยละ 24.6 ล้านบาท สำหรับอันดับที่สามเป็นของ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ และบริษัทในเครือ (คาซ่าวิลล์) ซึ่งขายได้สูงสุดถึง 165 หน่วย แต่มีมูลค่ารวม 2,592 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะราคาเฉลี่ยต่อหน่วยคือ 15.7 ล้านบาท อันดับที่สี่คือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ขายได้ 121 หน่วย มูลค่า 2,194 ล้านบาท เฉลี่ยหน่วยละ 18.1 ล้านบาท
          สำหรับบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ขายบ้านเดี่ยวราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไปและมียอดขายสูงสุดได้แก่ บจก.ไพรเวท เนอวานา โดยในปี 2557 ขายได้ 24 หน่วย รวมมูลค่า 469 ล้านบาท เฉลี่ยหน่วยละ 19.6 ล้านบาท อันดับสองคือ บจก.เนอวานา ดีเวลอปเมนท์ ขายได้ 20 หน่วย รวมมูลค่า 317 ล้านบาท เฉลี่ยหน่วยละ 15.9 ล้านบาท ส่วน บจก. ที.ซี.ซีแคปปิตอลแลนด์ แม้จะได้ขายได้เพียง 6 หน่วย ก็มีมูลค่าถึง 298 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 49.6 ล้านบาท
          การที่สถานการณ์ตลาดของบ้านราคาสูงกลับยังคึกคักอยู่นั้นแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่า ผู้มีรายได้สูงยังมีฐานะที่มั่นคงอยู่พอสมควร แต่สำหรับประชาชนในระดับกลาง และระดับล่าง ซึ่งมีร่องรอยของความเหลื่อมล้ำอยู่พอสมควรในสังคมไทย อาจพบกับปัญหาเศรษฐกิจในภาวะเงินฝืดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved