บิตคอยน์ทำลายสิ่งแวดล้อม รักษ์โลกต้องทิ้งบิตคอยน์
  AREA แถลง ฉบับที่ 0482/2568: วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

            ยิ่งราคา BTC พุ่งสูงเท่าไร คนทั้งโลกก็ยิ่งเสี่ยงเป็นมะเร็งกันมากขึ้น เพราะมันกระตุ้นให้โลกเผาถ่านหินเพื่อเลี้ยงกระแสไฟให้เหมืองขุดที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆให้กับโลกเลย

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ผู้ซึ่งพยายามชี้ให้เห็นถึงโทษภัยของบิตคอยน์ในหลายด้าน ทั้งที่เป็นแชร์ลูกโซ่ เป็นแหล่งฟอกเงินของอาชญากร เป็นแหล่งทำเงินของอาชญากรขุดบิตคอยน์ และอีกด้านหนึ่งก็เป็นตัวทำลายสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

            มาดูกันให้ชัดๆ

            1. ความสัมพันธ์ระหว่างราคา Bitcoin และการใช้พลังงาน จากการศึกษาของ UN ระบุว่า "การเพิ่มขึ้น 400% ของราคา Bitcoin ตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2022 ทำให้การใช้พลังงานของเครือข่ายการขุด Bitcoin ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 140%"  จากงานวิจัยเผยว่า "ราคา Bitcoin เป็นสาเหตุของการใช้พลังงานและความผันผวนในตลาดคริปโต โดยการขุด Bitcoin อาจยังคงดำเนินต่อไปแม้จะขาดทุน"

            2. การพึ่งพาถ่านหินในการขุด Bitcoin  จากรายงาน UN ระบุว่า "67% ของไฟฟ้าที่ใช้สำหรับการขุด Bitcoin ในช่วง 2020-2021 ผลิตจากแหล่งพลังงานฟอสซิล โดยถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานหลัก คิดเป็น 45% ของไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ขุด Bitcoin ทั่วโลก"  จากการศึกษาใน Earth's Future พบว่า "เครือข่าย Bitcoin พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นอย่างมาก คิดเป็น 67% ของส่วนผสมพลังงานของ Bitcoin ทั่วโลก โดยถ่านหินมีส่วนแบ่ง 45%"

            3. ผลกระทบต่อสุขภาพจากการเผาถ่านหิน  จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Science พบว่า "PM2.5 จากถ่านหินอันตรายกว่าที่คิด โดยการเพิ่มขึ้น 1 μg/m3 ของ PM2.5 จากถ่านหินทำให้อัตราการตายเพิ่มขึ้น 1.12% ซึ่งมากกว่าสองเท่าของความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ PM2.5 จากแหล่งมลพิษอื่น"  จากการศึกษาของ Harvard และที่ตีพิมพ์ใน Environmental Health พบว่า "การเพิ่มขึ้นของการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเกี่ยวข้องกับอุบัติการณ์มะเร็งปอดที่เพิ่มขึ้น" และคาดการณ์ว่า "1.37 ล้านกรณีมะเร็งปอดทั่วโลกจะเชื่อมโยงกับโรงไฟฟ้าถ่านหินในปี 2025"

            จากการศึกษาพบว่า "มลพิษทางอากาศจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเชื่อมโยงกับโรคหอบหืด มะเร็ง โรคหัวใจและปอด ปัญหาระบบประสาท" และ "ผู้ที่อาศัยใกล้โรงไฟฟ้าถ่านหินมีอัตราการตายสูงกว่าและเร็วกว่า พร้อมความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อโรคทางเดินหายใจ มะเร็งปอด โรคหัวใจและหลอดเลือด"

            4. ผลกระทบจาก Bitcoin mining ต่อคุณภาพอากาศ

            จากการศึกษาใน Environmental Health Perspectives พบว่า "การขุด Bitcoin ทำให้เกิดมลพิษ PM2.5 ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เพิ่มการผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการจากการขุด Bitcoin คิดเป็น 85% ของความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น"

            ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่ายิ่งราคา BTC พุ่งสูงเท่าไร คนทั้งโลกก็ยิ่งเสี่ยงเป็นมะเร็งกันมากขึ้น — เพราะมันกระตุ้นให้โลกเผาถ่านหินเพื่อเลี้ยงกระแสไฟให้เหมืองขุดที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆให้กับโลกเลย เลิกได้เลิก อย่าให้อาชญากรลวงเรา

 

อ้างอิง

            The Environmental Burden of the United States’ Bitcoin Mining Boom https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC11537342/

            A global perspective on coal-fired power plants and burden of lung cancer - Environmental Health https://ehjournal.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12940-019-0448-8

            Deaths associated with pollution from coal power plants https://www.nih.gov/news-events/nih-research-matters/deaths-associated-pollution-coal-power-plants

            The Environmental Footprint of Bitcoin Mining Across the Globe: Call for Urgent Action https://agupubs.onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1029/2023EF003871

            UN Study Reveals the Hidden Environmental Impacts of Bitcoin: Carbon is Not the Only Harmful By-product https://unu.edu/press-release/un-study-reveals-hidden-environmental-impacts-bitcoin-carbon-not-only-harmful-product

 

อ่าน 147 คน
2025 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved