อ่าน 1,362 คน
AREA แถลง ฉบับที่ 16/2552: 20 มิถุนายน 2552
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ 5 เดือนแรก ปี 2552

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการ
อ.วสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ AREA บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

            โดยที่สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีความผันผวนมาก ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จึงขอสรุปสถานการณ์ตลาดในรอบ 5 เดือนล่าสุดมา ณ โอกาสนี้
            1. ในรอบ 5 เดือนล่าสุด (มกราคม – พฤษภาคม 2552) มีจำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นทั้งหมด 16,733 หน่วย รวมมูลค่า 62,651 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 3.744 ล้านบาท หากนับเฉพาะที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีจำนวน 15,947 หน่วย (95% ของหน่วยทั้งหมด) หรือ 58,217 ล้านบาท (93% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมด) ทั้งนี้เป็นผลจากการสำรวจวิจัยต่อเนื่องในภาคสนาม ซึ่งเชื่อว่าเก็บข้อมูลได้เกินกว่า 95% ของทั้งตลาด
            2. หากประมาณการจากตัวเลข 5 เดือนแรก เชื่อว่า จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งปีจำนวน 40,159 หน่วย แยกเป็นที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 38,273 หน่วย รวมมูลค่า 150,362 ล้านบาท แยกเป็นที่อยู่อาศัย 139,721 ล้านบาท หรือแสดงว่า ลดลงจากปี 2551 ในแง่ของมูลค่าและหน่วยที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถึง 24% และ 44% ตามลำดับ นี่แสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2552 นี้กำลังจะหดตัวอย่างรุนแรงเป็นพิเศษ
            3. เฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้น มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอุปทานอย่างชัดเจน กล่าวคือ แม้ห้องชุดพักอาศัยจะมีจำนวนมากที่สุดถึง 5,267 หน่วย จากที่อยู่อาศัยทั้งหมด 15,947 หน่วย หรือ 33% (ประมาณหนึ่งในสามของทั้งตลาด) แต่ที่อยู่อาศัยกลุ่มอื่นอันได้แก่บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ก็เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดมาก กล่าวคือ มีบ้านเดี่ยวเกิดขึ้นในช่วง 5 เดือนแรกนี้ถึง 4,632 หน่วย (29%) และทาวน์เฮาส์ถึง 4,821 หน่วย (30%) นอกนั้นเป็นบ้านแฝดอีก 6% ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ แทบจะไม่ได้เกิดเลย  ข้อนี้ผิดแผกไปจากปี 2551 และปีก่อนหน้านี้ถึงราว 10 ปีที่โครงการอาคารชุดครองส่วนแบ่งตลาดประมาณเกือบครึ่งหนึ่ง แต่ในรอบ 5 เดือนแรกของปี 2552 กลับมีอาคารชุดเพียงหนึ่งในสามของทั้งตลาด
            4. โดยที่ราคาบ้านโดยเฉลี่ยที่ออกสู่ท้องตลาดในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2552 นี้เป็นเงินหน่วยละประมาณ 3.651 บาท ซึ่งมากกว่าในปี 2551 ที่ราคา 2.718 ล้านบาท ก็แสดงให้เห็นว่า สินค้าบ้านประเภทที่ราคาค่อนข้างต่ำ แทบไม่สามารถก่อสร้างได้ในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังผันผวนอยู่ในขณะนี้  เนื่องจากวัสดุก่อสร้างราคาสูงขึ้น  จะเห็นได้ว่า แม้จำนวนบ้านที่มีราคา 1-2 ล้านบาทจะมีสัดส่วนสูงสุดถึงหนึ่งในสามของทั้งตลาด แต่บ้านกลุ่มใหญ่ที่สุด (จำนวนหนึ่งในสี่) ขายในราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในตลาด
            5. จากการสำรวจภาวการณ์ขายหรือจองซื้อได้ในช่วงเดือนแรกของการเปิดตัวโครงการพบว่า สามารถขายได้ประมาณ 3,073 หน่วยของสินค้าอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด หรือราว 18% อัตรานี้ถือว่าต่ำเพราะในช่วงเดือนแรกที่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์มากเป็นพิเศษ ควรขายหรือมีคนจองซื้อได้มากกว่านี้ ในช่วงปีก่อนสัดส่วนการขายในช่วงเดือนแรกเป็นประมาณหนึ่งในสาม การนี้แสดงถึงการชะลอตัวของการตัดสินใจซื้อของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน
            6. อย่างไรก็ตามหากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า ห้องชุดส่วนมากยังสามารถขายได้พอสมควรคือ ประมาณ 37% ของหน่วยขายห้องชุดทั้งหมด  โดยเฉพาะกลุ่มห้องชุดราคา 3-5 ล้านสามารถขายได้มากเป็นพิเศษ ห้องชุดราคาต่ำ ๆ กลับขายได้ค่อนข้างช้ากว่า แต่ก็ยังสูงคือ เดือนละ 14-25% ของหน่วยขาย ส่วนกลุ่มบ้านเดี่ยวที่ขายดีคือราคา 5-10 ล้านบาทซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับหรูพอสมควร ส่วนทาวน์เฮาส์ขายได้ 11% โดยเฉลี่ยหรือถือว่าขายได้ดีพอสมควรในทุกระดับราคา
            7. หากพิจารณาถึงทำเลโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่จะพบว่า

ในปัจจุบัน ไม่ได้เน้นการพัฒนาใจกลางเมืองแล้ว
                        เพราะที่ดินราคาสูงขึ้นมาก แต่ไปเน้นการพัฒนาชานเมืองเพื่อสร้างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ แผนที่ที่แนบนี้ชี้ให้เห็นทำเลที่น่าจะมีการลงทุนมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพราะส่วนหนึ่งเป็นการพัฒนาบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ที่ต้องสร้างอยู่ในเขตชานเมืองออกไป

            อนึ่งในวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2552 ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จะจัดงานสัมมนาครั้งสำคัญ “สรุปสถานการณ์ + ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ครึ่งปีหลังปี 52” ณ โรงแรมบันยันทรี ถนนสาทร ในเวลา 08:30 – 12:30 น. จึงขอเชิญสมาชิก Real Estate Index โปรดเข้าร่วมการสัมมนาครั้งสำคัญนี้ ซึ่งเป็นการเปิดเผยข้อมูลสำคัญจากฐานข้อมูลภาคสนามที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
            8. เชื่อว่าหากเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2552 หากเกิดการติดลบขึ้นมา ก็อาจทำให้ราคาอสั้งหาริมทรัยพ์เตรียมตัวลงราคาได้แล้ว อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายลงเช่นนี้ โอกาสที่ราคาที่อยู่อาศัยยังจะทรง ก็พอมีให้เห็นเช่นกัน

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ในฐานะศูนย์ข้อมูล-วิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินที่มีฐานข้อมูลภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุด ได้รับ ISO 9001-2008 ทั้งระบบแห่งแรกในฐานะที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ได้รับรางวัลจรรยาบรรณดีเด่น และเป็นสมาชิก UN Global Compact อีกด้วย

2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved