ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกาเป็นดัชนีสำคัญในการชี้ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และอาการป่วยไข้ ฟื้นฟูหรือแข็งแรงหรือไม่ของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จึงได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงราคาบ้านในสหรัฐอเมริกา จากรายงานของสำนักงานการเงินที่อยู่อาศัยแห่งสหรัฐอเมริกามานำเสนออย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ของนักลงทุนและผู้สนใจภาวะเศรษฐกิจโลก
          จากการสำรวจพบว่า ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 0.7% ในช่วงเดือนล่าสุด คือเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2552 ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดที่ค้นพบก็คือ หากเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2551 ราคาบ้านในรอบ 1 ปี (พฤศจิกายน 2551-2552) ราคาบ้านกลับเพิ่มขึ้น 0.5% ปรากฏการณ์นี้นับเป็นครั้งแรกที่ราคาบ้านในรอบ 1 ปีมีค่าเป็นบวก ที่ผ่านมา ราคาบ้านในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาตกต่ำมาโดยตลอด นี่แสดงให้เห็นชัดว่า ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกา ได้ปรับฐานให้มีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว ทั้งนี้อาจสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาหยุดการดิ่งเหว และอาจจะกำลังผงกหัวขึ้นอย่างช้า ๆ
          ยิ่งกว่านั้น การเพิ่มขึ้นของราคาบ้านในสหรัฐอเมริกานี้ ยังเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แล้วนับแต่สิ้นเดือนกันยายน 2552 หากราคาบ้านยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปอีก 2-3 เดือน ก็ย่อมเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังจะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ แล้ว อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและนำเสนอต่อสาธารณชนต่อไป
          สัญญาณดีอีกประการหนึ่งก็คือ ในภูมิภาคทั้ง 9 ภูมิภาคของสหรัฐอเมริกานั้น มีเพียง 3 ภูมิภาคที่ราคาบ้านยังลดต่ำลง ได้แก่
          1. ภูมิภาคตอนกลางค่อนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ อันได้แก่มลรัฐเคนตักกี้ เทนเนสซี มิสซิสซิปปี และอลาบามา
          2. ภูมิภาคนิวอิงแลนด์ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) อันได้แก่ มลรัฐเมน นิวแฮมเชียร์ เวอร์มอนต์ แมสซาชูเซ็ตต์ โรดไอแลนด์และคอนเนกติกัต
          3. ภูมิภาคแอตแลนติกตอนกลาง อันได้แก่ มลรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซี และเพนซิลเวเนีย
          สำหรับภูมิภาคที่ราคาบ้านเคยมีตกต่ำหนักเป็นพิเศษ ได้แก่ ภูมิภาคแปซิฟิก (แคลิฟอร์เนีย) และภูมิภาคแอตแลนติกตอนใต้ (ฟลอริดา) นั้น ปรากฏว่า ราคาบ้านกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแคลิฟอร์เนีย ราคาเพิ่มขึ้น 2.2% และ 2.3% ในช่วงเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน ส่วนฟลอริดา เพิ่มขึ้นประมาณ 2.0% ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในเมื่อภูมิภาค “อันตราย” ทั้งสองยังกลับมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด ย่อมแสดงความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างมาก
          พื้นที่อันตรายที่ต้องจับตาเป็นพิเศษได้แก่ภูมิภาคเทือกเขา อันประกอบด้วยมลรัฐมอนทานา ไอดาโฮ ไวโอมิง เนวาดา ยูทาห์ โคโลราโด อริสโซนา และนิวเม็กซิโก ในมลรัฐเหล่านี้โดยเฉพาะ มลรัฐเนวาดา ซึ่งมีเมืองลาสเวกัสตั้งอยู่ แต่เดิมมีการเก็งกำไรกันมาก และพบว่า ราคาบ้านในรอบ 1 ปีท่านผ่านมาลดลงต่ำสุดคือ ลงลงถึง 4.9% ในขณะที่มีอีกเพียง 2 ภูมิภาคที่ราคาลดลง แต่ลดลงน้อยมากหรือแทบจะไม่ได้ลดลงเลยคือ ภูมิภาคแอตแลนติกตอนกลาง และภูมิภาคแอตแลนติกตอนใต้
          โดยทั่วไปอาจกล่าวได้ว่า พื้นที่ที่มีการเก็งกำไรกันสูงมาก ๆ ราคาบ้านจะตกต่ำมากกว่ากลุ่มอื่น พื้นที่ที่ไม่หวือหวา ราคาก็จะไม่ได้ตกลงหวือหวาเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม พื้นที่ที่ลดลงหวือหวาในขณะนี้ ราคาบ้านในอนาคตก็อาจจะกำลังจะถีบตัวสูงขึ้นอย่างหวือหวาในระยะอันใกล้นี้เช่นกัน