ดร.โสภณ หนุนให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รื้อ "กฎหมู่" ที่ป้อมมหากาฬเสียที เพราะคราวนี้ถือว่าไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง ไม่ต้องเกรงใจใคร (อีกต่อไป) แต่ ดร.โสภณ ก็ไม่เห็นด้วยกับการตั้ง พล.ต.อ.อัศวิน เป็นผู้ว่าฯ กทม.

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) แถลงว่า ว่าในโอกาสที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ควรจะเร่งรื้อย้ายกฎหมู่ที่ชุมชนป้อมมหากาฬได้แล้ว เพราะขณะนี้ถือว่าไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด ๆ ไม่ต้องกลัวเสียคะแนนนิยมใด ๆ แก่พรรคที่ตนสังกัดแล้ว เป็นการแต่งตั้งโดยตรงของ คสช.

            พวก "กฎหมู่" ที่ป้อมมหากาฬนั้น เกือบทั้งหมดไม่ได้อยู่ในที่นั้นตั้งแต่มีการเริ่มโครงการนี้เมื่อปี 2503 หรือ 56 ปีที่แล้ว แต่ส่วนมากเพิ่งเข้ามาอยู่ในภายหลังแทบทั้งสิ้น จึงไม่อาจมีความชอบธรรมใด ๆ ที่จะอยู่ต่อ และยังไม่อาจอ้างอิงใดๆ ได้ว่าตนอยู่กันเป็นชุมชนโบราณ เช่น ชุมชนโบราณที่แท้ที่ต่างเป็นเจ้าของบ้านและที่ดินของตนเอง แต่ที่ป้อมมหากาฬนี้ ที่ดินเป็นของ กทม.แล้ว กทม.ซื้อไว้แล้วเพื่อที่จะพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ การยื้อมาโดยตลอด 56 ปีนี้ กลายเป็น "ด้านได้ อายอด" เอาเปรียบสังคมหรือไม่ ประเทศควรบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิผลดีกว่านี้ไหม

            ยิ่งไปอ้างอิงถึงการมีวิกลิเกวิกแรกก็เป็นเรื่องเท็จที่กุขึ้นทั้งสิ้น เพราะวิกลิเกวิกแรกของพระยาเพชรปาณีอยู่ที่บ้านหม้อ และสมัยนั้นก็มีลิเกอยู่มากมายหลายที่หลายวิก ภาพถ่ายที่มีอยู่นั้น เจ้าของภาพก็ระบุชัดว่าถ่ายที่วัดสระเกศ ไม่ใช่ที่ริมคลองข้างวัดราชนัดดา แถมบริเวณที่ (แอบอ้าง) ว่าเป็นที่ตั้งวิกลิเกดังกล่าว ก็มีบ้านหลังหนึ่งปลูกทับอยู่ แสดงว่าไม่มีอยู่จริง หรือมีก็ไม่ได้มีใครเห็นความสำคัญใด ๆ จะนำมาอ้างเพื่อไม่ยอมย้ายอย่างไม่ละอายใจ ไม่ได้ และที่ผ่านมาก็ไม่มีที่ดินแปลงใดเลยที่เคยมีชื่อเจ้าของ เป็นของพระยาเพชรปาณี ดังกล่าว (http://bit.ly/2cWrgNN)

            ยิ่งกรณีที่อ้างเท็จว่า ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เคยอยู่บ้านไม้หลังหนึ่งในพื้นที่นี้ก็เป็นการอ้างอย่างขาดความละอาย ไร้หิริโอตตัปปะเป็นอย่างยิ่ง คนในตระกูล "อึ๊งภากรณ์" ก็ออกมาปฏิเสธในเรื่องนี้ เจ้าของบ้านไม้หลังนั้นได้รับเงินจาก กทม.แล้ว และได้ย้ายออกไปแล้ว แต่จะกลับมารื้อบ้านตามที่ตกลงกับทาง กทม. แต่พวก "กฎหมู่" กลับใช้อำนาจบาตรใหญ่ไม่ยอมให้รื้อ อ้างสารพัด เช่นว่ามีลายฉลุเฉลาสวยงามภายในบ้าน ทั้งที่เจ้าของบ้านเองก็บอกว่าไม่มีอยู่แล้ว (http://bit.ly/2bQJAap) การแสดงออกในลักษณะข่มขืนใจเจ้าของบ้าน จนต้องทำหนังสือให้ กทม. ช่วยรื้อให้เองเช่นนี้ ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

            อย่างไรก็ตาม แม้ ดร.โสภณ จะ "เชียร์" ให้ พล.ต.อ.อัศวิน ย้าย "กฎหมู่" ที่ป้อมมหากาฬก็ตาม แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งท่านเป็นผู้ว่าฯ กทม. ดร.โสภณ มีจุดยืนที่ชัดเจนด้านประชาธิปไตย คือ

            1. ในการสั่งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และคณะพ้นจากตำแหน่งเป็นอำนาจของ คสช. ที่ถูกต้องตามกฎหมายของ คสช. แต่จะเป็นไปตามทำนองคลองธรรมหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน

            2. การตั้ง พล.ต,อ.อัศวิน มาแทน ทั้งที่ท่านเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ และเป็น "ลูกน้อง" ในทีมของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จึงไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง กลายเป็นการ "สืบทอด" อำนาจของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ถ้าจะตั้งก็ควรตั้งคนอื่นแทนที่

            3. ที่สมควรดำเนินการก็คือการตั้ง "ปลัด" มารับหน้าที่ไปพลางก่อน เพื่อรอการเลือกตั้ง เช่นเดียวกับในกรณีอื่น ๆ

            4. สมควรให้ประชาชนเลือกตั้งโดยกำหนดระยะเวลาให้แน่ชัดว่าจะให้มีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ เช่น 1 ปีนับจากนี้ ไม่ใช่แต่งตั้งในลักษณะ (คล้าย) จะ "อยู่ยาว" แบบนี้

            อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย อย่าได้กลัวอำนาจประชาชน อย่าได้กลัวการเลือกตั้ง อย่าได้รังเกียจมติมหาชนที่แท้จริงที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ ในเวลาที่เหมาะสมเช่น 1 ปี ควรจะให้มีการเลือกตั้งได้ทันทีเพื่อประโยชน์ของคนท้องถิ่นเอง