ไปเรียน ป.โท อสังหาริมทรัพย์เมืองนอกกัน
  AREA แถลง ฉบับที่ 366/2562: วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2562

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ผมสอนหลักสูตรปริญญาโทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยทั้งที่ธรรมศาสตร์และจุฬาฯ มาตั้งแต่เริ่มมีโครงการ และยังเป็นผู้ร่วมร่างหลักสูตรนี้ในมหาวิทยาลัยหลายแห่งด้วย แต่วันนี้ผมขอเชิญท่านผู้สนใจลองพิจารณาไปเรียนปริญญาโทอสังหาริมทรัพย์ในเมืองนอกกันบ้าง เพื่อเปิดหูเปิดตากันให้กว้างขวาง ประกอบกับมีเสียงเรียกร้องมาหลายกระแส ให้แนะนำหลักสูตรเมืองนอกบ้าง  มาดูกัน

            มหาวิทยาลัยแห่งชาติไทเป มีหลักสูตรศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาอสังหาริมทรัพย์และการบริหารทรัพย์สิน (https://bit.ly/2wNcGRM) ค่าเล่าเรียนที่นี่ถือว่าถูกมากคือเทอมละ 21,000 บาท สมมติถ้าเรียน 6 เทอม ก็เป็นเงิน 126,000 บาท และบวกค่าใช้จ่ายอื่นก็คงไม่เกิน 250,000 บาท

            มหาวิทยาลัยมาเก๊า คณะบริหารธุรกิจ มีเปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการจัดการรีสอร์ต แบบองค์รวมนานาชาติ (M.Sc. in International Integrated Resort Management: https://bit.ly/2F6nj6x) ใช้เวลาเรียนประมาณ 2-2.5 ปี ใช้เงินเรียนประมาณ 400,000 บาท (https://bit.ly/2Zse6gV)

            มหาวิทยาลัยมาลายู คณะ Built Environment มีหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต อสังหาริมทรัพย์ (https://bit.ly/2WDVQPA) ค่าเล่าเรียนก็ประมาณ 530,000 บาท ซึ่งยังถูกกว่าธรรมศาสตร์เสียอีก มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะมหาวิทยาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยแห่งแรกตั้งแต่ปี 2448 (จุฬาฯ 2442)

            มหาวิทยาลัย Universiti Tun Hussein Onn Malaysia (https://bit.ly/2GFVwMo) มีหลักสูตรมหาบัณฑิตสาขาอสังหาริมทรัพย์และการบริหารอาคาร  มหาวิทยาลัยแห่งนี้เพิ่งก่อตั้งในปี 2543 หลักสูตรปริญญาโทนี้เหมาะสมสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งเรียน เพราะเป็น (MSc by Research) ค่าเล่าเรียนก็คงเพียง 300,000 บาทเท่านั้น

            มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาลายู ตั้งอยู่ทั้งที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และที่ Jaho Baru ทางใต้สุดของประเทศใกล้กับสิงคโปร์ มีสาขาวิชาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตด้านอสังหาริมทรัพย์ เรียนจบใน 1 ปี (https://bit.ly/2RkBdHr) ค่าเล่าเรียนก็ถูกประมาณ 200,000 บาท มี MSc by Research คือเน้นการทำวิจัยเป็นหลัก (https://bit.ly/31wBo7c)

            มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ มีหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาอสังหาริมทรัพย์ (https://nus.edu/2IFWc38) ส่วนค่าเรียนเป็นเงินประมาณ 675,000 บาท (https://bit.ly/2RfvKRV) โปรแกรมนี้เรียนประมาณ 1 ปี แต่หากต่อเป็น MBA ก็จะเป็น 2 ปี  นักศึกษามาจากหลากหลายประเทศ

            มหาวิทยาลัยฮ่องกง สาขาวิชาอสังหาริมทรัพย์ มีหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตอสังหาริมทรัพย์ (https://bit.ly/2IwLSKM) โดยใช้เวลาเรียน 1-2 ปี ค่าเล่าเรียน 640,000 บาท (https://bit.ly/2HWUaP5) นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง นับเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของโลก

            มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง มีหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ (https://bit.ly/2XFQhSh) ใช้เวลาเรียน 2 ปีแบบ Part Time ค่าเล่าเรียนคงเป็นเงินราว 400,000 บาท (https://bit.ly/2Kg4nGY) อดีตอธิบดีกรมประเมินค่าทรัพย์สินของฮ่องกงที่ผมเคยรู้จัก ท่านก็ย้ายมาเป็นอาจารย์ที่นี่

            นอกจากนี้ในสหรัฐอเมริกาก็ยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากมาย ปัญหาสำคัญก็คือ ค่าใช้จ่ายแพงมากนั่นเอง สถาบันที่มีชื่อเสียงด้านนี้ได้แก่ MIT Center for Real Estate ส่วนในนิวยอร์คมีสถาบันที่มีชื่อเสียงมากคือ New York University (NYU) ซึ่งก็มี Real Estate Institute และอีกแห่งคือ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งมีความเก่าแก่ด้านการสอนอสังหาริมทรัพย์และมีชื่อเสียงมาก รวมทั้ง University of Pennsylvania ซึ่งเราอาจคุ้นเคยกับ the Wharton School (เป็นคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยนี้) มหาวิทยาลัยนี้มีปริญญาดุษฎีบัณฑิตด้านอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ รวมทั้ง Cornell University ส่วนด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นหลักสูตร 2 ปี

            ด้าน MBA ได้แก่ Florida Atlantic University หลักสูตร 2 ปี Georgia State University (College of Business Administration Real Estate) สอนทั้งระดับปริญญาโทและเอก Johns Hopkins University (Division of Business and Management) โดยสอนในระดับ วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตอสังหาริมทรัพย์ และ University of Florida (Warrington College of Business Administration) ซึ่งมีถึงระดับปริญญาเอกโดยต้องไปลงทะเบียนเข้าเรียนในชั้น

            ที่เป็นในเชิงการประเมินค่าทรัพย์สินได้แก่ University of Wisconsin - Madison (School of Business) และที่ Texas A and M University ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ต่างก็เปิดสอนด้านเศรษฐศาสตร์ที่ดินเมืองโดยมอบวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต และที่ Virginia Commonwealth University กับ University of Saint Thomas ก็เปิดสอนเป็นวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตด้านประเมินค่าทรัพย์สิน เช่นกัน

            และที่เป็นในเชิงการพัฒนาที่ดินโดยตรงได้แก่ University of Southern California และ University of Texas at Arlington (ปริญญาโทด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์) สำหรับทางด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยที่เน้นทางด้านนี้ ได้แก่ University of Denver (ปริญญาโทที่เน้นด้านการจัดการงานก่อสร้าง) Webster University ที่เมืองเซ็นต์หลุยส์ มลรัฐมิสซูรี่

            ส่วนสถาบันการศึกษาในอังกฤษนั้น ว่ากันว่าความแตกต่างระหว่างอเมริกันและอังกฤษก็คือ อเมริกันมุ่งเน้นด้านวิชาการ การวิเคราะห์อย่างกว้างขวางมากกว่าอังกฤษ โดยเฉพาะในด้านของตัวเลขต่าง ๆ  มาเริ่มต้นที่ City University, London เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอน สอนระดับปริญญาโทด้านการประเมินค่าทรัพย์สิน, การจัดการทรัพย์สินและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยอีกแห่งในกรุงลอนดอนก็คือ South Bank University, London (Faculties of Built Environment) ซึ่งเปิดการสอนในทางด้านวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตด้านอสังหาริมทรัพย์ (เน้น Asset Management)

            บางแห่งมุ่งเน้นความรู้ในภูมิภาคเช่น Kingston University สอนปริญญาโทด้านอสังหาริมทรัพย์ในภาคพื้นยุโรป โดยเฉพาะ ทั้งนี้สังกัด Faculty of Design, European Real Estate Studies ส่วนใครที่อยากเรียนอสังหาริมทรัพย์ในเอเซียอาคเนย์ ไปเรียนได้ที่ University of Portsmouth (Dept of Land & Construction Management) แต่ก็ยังสอนในสาขานโยบาย การลงทุนและการศึกษาอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

            Oxford Brookes University เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างในระดับปริญญาโทโดยถือเป็นหนึ่งในสาขาของ MBA. ส่วนที่จะได้ M.A. (Master of Art) ก็คือ University of the West of England, Bristol ทั้งนี้สอนภายใน Faculty of the Built Environment

            ระดับปริญญาเอกมีที่ University of Reading (Department of Construction Management and Engineering) ซึ่งคงเป็นเพราะมีศาสตราจารย์ดังคือ Prof. Neil Crosby อย่างไรก็ตามที่นี่ยังสอนระดับปริญญาโทด้านการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน

            ส่วนในภาคพื้นยุโรปก็มีศึกษาอสังหาริมทรัพย์ เช่น Swedish School of Economics and Business Administration ซึ่งอยู่ประเทศฟินแลนด์ โดยสอนระดับปริญญาโท (M.A.) ด้านการเงินอสังหาริมทรัพย์ ส่วนที่สวีเดนก็มี KTH Royal Institute of Technology ใน Department of Infrastructure นอกจากนี้ยังมีสถาบันที่น่าสนใจในเนเธอร์แลนด์ (IHS) เยอรมนี และเบลเยียม (Katholieke Universiteit Leuven)

            และ ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์มีค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่าไปยุโรป-อเมริกา อากาศก็ดี จึงน่าสนใจอีกเช่นกัน ในกรณีของนครซิดนีย์ได้แก่ University of New South Wales, University of Western Sydney, University of Technology, Sydney เป็นต้น ในนครอื่น ๆ อาจจะกระจัดกระจายเช่น ควีนส์แลนด์ มี University of Queensland, อดีเลท มี University of South Australia, เพิร์ท มี Curtin University และเมลเบอร์นมี RMIT (ส่วน Monash และ University of Melbourne อาจมีโปรแกรมที่ไม่แพร่หลายนัก) และในนิวซีแลนด์ เกาะเหนือก็ได้แก่ University of Auckland และ Massey University ส่วนเกาะใต้ก็มี Lincoln University ใกล้เมืองไครส์เชิร์ช

            คนที่เรียนดีๆ เรียนเก่งๆ ยังสามารถขอทุนเรียนได้ด้วย หรือเขาอาจเชิญให้ต่อปริญญาเอกได้อีกต่างหาก ยังไงเมื่อเรียนแล้วก็กลับมารับใช้ชาติกันนะครับ

อ่าน 3,520 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved