ทำไมไทยไม่ควรแจกเงินประชาชนแบบฮ่องกง
  AREA แถลง ฉบับที่ 145/2563: วันพฤหัสบดีที่ 05 มีนาคม 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            เมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลไทยจะออกมาตรการใหม่โดยการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอีกแล้ว  มาตรการนี้ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง  แต่ฮ่องกงก็กำลังมีมาตรการคล้ายกัน  ทำไมเราไม่ควรทำแบบฮ่องกง

            เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวว่า “คลัง จัดหนัก เตรียมแจกเงินแสนล้าน สู้ COVID-19 - 14 ล้านคน เฮ รอกดผ่านพร้อมเพย์” <1> ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ให้ข้อมูลพร้อมความเห็น ดังนี้:

            1. ผู้ที่ร่วมโครงการจะต้องลงทะเบียน ขณะนี้มีข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่เข้าข่ายจากกองทุน กอช. และกองทุน สปสช. . . .คาดว่าจะมีผู้รับประโยชน์ 14 ล้านคน . . .จำนวนเงินกำลังพิจารณาว่าจะแจกเท่าไร ระหว่าง 1,000-2,000 บาท  กรณีนี้ผู้ที่ตกสำรวจหรือไม่ได้อยู่ในระบบก็ไม่ได้

            2. สำหรับการช่วยเหลือคนมีรายได้ระดับกลาง ช่วยภาระหนี้บัตรเครดิต. . . กรณีนี้คงเป็นการช่วยเจ้าหนี้บัตรเครดิตเป็นสำคัญหรือไม่

            3. การแจกเงินนั้นเป็นมาตรการที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ตามพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ที่ว่า “เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรจะให้เบ็ดตกปลาและสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า” <2>

            อย่างไรก็ตามทางราชการอาจเลียนแบบฮ่องกงที่เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2563 มีมาตรการฮ่องกงแจกเงินประชาชนราว 7 ล้านคน (อายุ 18 ปีขึ้นไป) คนละ 4 หมื่นบาท (10,000 ฮ่องกงดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  รวม 71,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด 120,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (490,528 ล้านบาท) โดยรัฐบาลนำเงินทุนสำรองทางการคลังมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกงที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจรุ่งเรือง <3> แสดงว่าที่แจกไปยังเล็กน้อย ถือว่า “ขนหน้าแข้งไม่ร่วง” การแจกเงินและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของฮ่องกง จะทำให้เงินในคลังของรัฐบาลติดลบถึง 139,100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในปีงบประมาณหน้า ซึ่งเป็นงบประมาณขาดดุลครั้งแรกของฮ่องกงในรอบ 15 ปี

            อย่างไรก็ตามในกรณีประเทศไทยสถานการณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยในช่วง 2 ปีแรกตั้งแต่ปี 2557-2558 รัฐบาลขาดดุลงบประมาณรวม 500,000 ล้านบาทจากวงเงินงบประมาณ 5,100,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.8% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด. . .ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559-2563 รัฐบาลขาดดุลงบประมาณไป 2,412,280 ล้านบาท จากวงเงินงบประมาณทั้งหมด 14,969,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.12% ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด โดยช่วง 3 ปีแรกมีการตั้งงบประมาณเพิ่มกลางในช่วงกลางปีงบประมาณอย่างต่อเนื่อง <4>

            ดังนั้นการที่รัฐบาลไทยไป “ตามก้น” ฮ่องกงหรือประเทศอื่นใดที่แจกเงิน จึงเป็นนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับกรณีประเทศไทย และจะสร้างปัญหาแก่ประชาชนในการเป็น “ทาสเงินกู้” ในระยะยาวต่อไป

อ้างอิง
<1> Kapook. 4 มีนาคม 2563. คลัง จัดหนัก เตรียมแจกเงินแสนล้าน สู้ COVID-19 - 14 ล้านคน เฮ รอกดผ่านพร้อมเพย https://money.kapook.com/view221448.html
<2> เดลินิวส์ 6 ตุลาคม 2560. พระราชาผู้สอนให้คนดอยจับปลา. https://www.dailynews.co.th/article/602493
<3> ไทยโพสต์ 26 กุมภาพันธ์ 2563. ฮ่องกงแจกเงินประชาชนรายละ 4 หมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ. https://www.thaipost.net/main/detail/58282
<4> Thai Publica. 6 สิงหาคม 2562. เศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว ทำไมต้อง “ขาดดุลงบประมาณ” ต่อเนื่องอีก?

อ่าน 9,091 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved