พึงเข้าใจ: คนจนเสียภาษีมากกว่าคนรวยต่างหาก
  AREA แถลง ฉบับที่ 691/2563: วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            มีบางคนหลงคิดไปว่าคนจนไม่ได้เสียภาษี อันนี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง  กรณีนี้ถ้าผู้บริหารประเทศเข้าใจผิดๆ ได้ข้อมูลผิดๆ ก็รังแต่จะสร้างความหายนะให้แก่การบริหารราชการแผ่นดิน

            แม้แต่นายกฯ ก็ยังเคยบอกว่า “..ภาษีมาจากไหน ภาษีรายได้บุคคลธรรมดาสุทธิ 3.158 แสนล้านบาท ได้มาแค่ 11% มีคนเสียจริงๆ แค่ 4 ล้านคนที่อยู่ในเกณฑ์เสียภาษีบุคคล กรมศุลกากรได้มา 1 แสนล้านบาท กรมสรรพสามิตได้มา 6 แสนล้านบาท รายได้อื่นๆ มูลค่าเพิ่ม ทั้งหมดนี่อะไรที่เป็นของคนจนเราไม่ได้ภาษีหรอกครับ เราได้เขาเพียงอย่างเดียว ภาษี VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) 7% ซึ่งถ้าเขาซื้อของเขาถึงเสีย ด้านการเกษตร เรื่องน้ำเรื่องต่างๆ ไม่มีการเสียภาษีสำหรับเกษตรกร ท่านต้องดูรายได้ประเทศมาอย่างนี้..” (https://bit.ly/32TjpIC)

            ที่คิดว่าภาษีส่วนใหญ่มาจากบริษัทห้างร้านหรือประชาชนผู้เสียภาษีทางตรงนั้น เป็นความเข้าใจผิด จากยอดรายได้ของประเทศไทยทั้งหมดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ภาษีนิติบุคคลเก็บได้เพียง 25% ของภาษีทั้งหมด (หลังจากหลบเลี่ยงภาษีตามช่องทางถูกกฎหมายแต่ผิดคุณธรรมไปได้มากมาย) ส่วนภาษีบุคคลธรรมดามีเพียง 12% เท่านั้น (พวกนี้เลี่ยงภาษีได้ยาก)  รายได้อันดับหนึ่งของประเทศมาจากภาษีทางอ้อม อีก 61% โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 30%

            ภาษีที่ได้ส่วนมากมาจากบริษัทห้างร้านที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของไทยอยู่ในกรุงเทพมหานครถึงเกือบครึ่งหนึ่ง  แต่ไม่ใช่ว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เสียภาษี คนไทยจำนวนมากเสียภาษีทางอ้อม เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีปิโตรเลียม ภาษีสรรพสามิต ฯลฯ  ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศซึ่งไม่ใช่คนร่ำรวยแต่เป็นคนธรรมดาจำนวนหลายสิบล้านคน จึงเสียภาษีมากกว่าบุคคลธรรมดาที่ร่ำรวย

            อันที่จริงนิติบุคคลต่างๆ (ยกเว้นบริษัทมหาชนซึ่งมีไม่กี่ร้อยแห่ง) มักเลี่ยงภาษีในรูปแบบต่าง ๆ หรือเสียภาษีให้น้อยที่สุด แม้แต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ ยังอาจเสียภาษีมากกว่าคนรวย เพราะพวกเขาต้องเสียภาษีล้อเลื่อน (จักรยานยนต์ รถยนต์รายปี) ส่วนคนร่ำรวย มีที่ดินอยู่จำนวนมหาศาล มูลค่านับร้อย นับพัน นับหมื่นล้านบาท ก็แทบไม่เคยเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือภาษีมรดกอะไรเลย

            เราเห็นเศรษฐีใจบุญบริจาคเงินมากมายนั้น แท้จริงเป็นแค่กระผีกริ้น คนรวยโดยเฉพาะที่ยิ่งรวยล้นฟ้านั้น เอาเปรียบคนจนทั้งสิ้น เพราะไม่ได้เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั่นเอง  ในสังคมมีการดรามาว่าคนจนก็จนอยู่แล้ว อย่าเก็บภาษีเลย แต่หากสังคมได้ทราบความจริงว่า หากมีการเก็บภาษีนี้ เราคงมีเงินจ้างเวรยามมาดูแลสังคม ทางเท้า ฯลฯ ให้สังคมผาสุกมากขึ้น คุ้มกว่าที่เสียภาษีไปมากมาย สาเหตุที่มีการดรามายกเว้นภาษีแก่คนจน ก็เพื่อจะได้ยกเว้นแก่คนรวย ๆ ด้วยนั่นเอง ยกเว้นไป ๆ มา ๆ ก็เลยไม่ได้เก็บภาษี ก็เลยคิดแต่จะขึ้นภาษี VAT เป็น 8% เพราะภาษีนี้คนทุกคนโดนหมดโดยเฉพาะคนจน ๆ อยู่ในป่าเขาออกมาซื้อมาม่าซองหนึ่งก็โดนแล้ว

            ภาษี 1% สำหรับคนจนนั้นในแง่หนึ่งถือว่าถูกมาก แม้แต่คนจนมีจักรยานเก่า ๆ สักคัน ขี่มารับจ้างตามปากซอย คันละ 30,000 บาท ก็ต้องเสียภาษีปีละมากกว่า 300 บาท หรือเกิน 1% แล้ว แต่สำหรับคนรวยนั้น 1% เขาไม่อยากจะเสีย เช่น ถ้ามีที่ดินตารางวาละ 2.25 ล้านบาท สัก 1,000 ตารางวา ก็เป็นเงิน 2,250 ล้านบาท หากต้องเสีย 1% ก็เท่ากับ 22.5 ล้านบาทต่อปีเข้าไปแล้ว พวกคนรวย ๆ เขาเสียดายเงิน  กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจึงไม่ผ่านสภาเสียที แม้สภาของคณะรัฐประหารนี้ ก็เป็นของคนรวยเช่นกัน ดังภาษิตกฎหมายที่ว่า “ชนชั้นใดก็ออกกฎหมายเพื่อชนชั้นนั้น”

            หากเศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดิน 1,000 ตารางวา ๆ ละ 2.25 ล้านบาท แล้วต้องเสียภาษีปึละ 1% ก็เท่ากับเสียภาษี 22.5 ล้านบาทจากมูลค่าทรัพย์ 2,250 ล้านบาท เรามาลองดูกันว่าเศรษฐีที่มีทรัพย์นับพันๆ ล้านแบบนี้ เคยบริจาคเงินเพื่อส่วนรวมปีละ 22.5 ล้านบาทเลยหรือ อย่างมากก็คงบริจาคแค่กระผีกลิ้น แล้วถ่ายรูป เอาโล่กันไป ได้ทั้งกล่อง ประหยัดทั้งเงินอีกต่างหาก และด้วยเหตุนี้ สังคมไทยจึงมีความเหลื่อมล้ำอย่างสูงมาก แต่ยังดีดีที่เมืองไทยมีศาสนายึดเหนี่ยว หรืออีกนัยหนึ่งมีการใช้ศาสนาที่ดีงามมาใช้เบื่อเมาให้คน “ปล่อยวาง” จึงไม่เอาเรืองเอาราวกัน ปล่อยให้มีการเอาเปรียบคนที่จนกว่าอยู่ร่ำไป

            เมื่อพิเคราะห์ถึงการเสียภาษีของประชาชนทั่วไป จึงเกิดคำถามว่าใครกันแน่ที่เสียสละเพื่อชาติ คนร่ำรวยล้นฟ้า มีโอกาสเลี่ยงภาษีมากมาย ส่วนประชาชนทั่วไปในฐานะผู้บริโภคกลับหลีกเลี่ยงไม่ได้  ผู้ผลิตก็ต่างโยนภาระภาษีให้กับประชาชนทั้งสิ้น  แล้วจะบอกว่าประชาชนไม่เสียภาษีได้อย่างไร  เพราะข้าราชการไม่รู้ความจริงข้อนี้ จึงคิดว่าประชาชนคนเล็กคนน้อยเป็นภาระ ทั้งที่พวกเขานี่แหละคือผู้เสี่ยภาษี (ทางอ้อม) บำรุงข้าราชการ  ข้าราชการจึงควร “รับใช้ประชาชน” ไม่ทรยศหักหลักประชาชน แล้วจัดสรรทรัพยากรมาเสพสุขกันเอง

            ประเทศนี้เป็นของประชาชนผู้เสียภาษีหล่อเลี้ยงประเทศผ่านภาษีทางอ้อมที่ประชาชนเป็นผู้รับกรรมคนสุดท้าย

 

 

 

 

อ่าน 20,019 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved