กรณี "บ้านประชารัฐ" ดูเหมือนรัฐบาลประยุทธ์ จะดำเนินนโยบายแบบ "มวยวัด" หรือ "ลมเพลมพัด" อาจไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้
            ตามที่มีข่าวในประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 15-17 กุมภาพันธ์ ศกนี้ว่า "ขยับราคา "บ้านประชารัฐ" ไม่เกิน 1.5 ล.มนุษย์เงินเดือนเฮ" (bit.ly/20Aomgn) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) แสดงความเห็นว่า:

            1.  การขยับราคาบ้านจาก 0.5 ล้านบาทเป็น 1.5 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงอาการ "ลมเพลมพัด" ในทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ ที่คิดจะออกมาตรการใด ๆ ก็ได้แค่ "โยนหินถามทาง" พอถูกค้าน ถูกให้แนวคิดก็ "เป๋" ไปเรื่อยๆ ทำให้เห็นถึงจุดอ่อนของการออกนโยบายและแผนของรัฐบาลที่ไม่มีความแน่นอน
            2. ทีมเศรษฐกิจยังออกมา "ขู่" อีกว่า หากไม่มีภาคเอกชนรายใดสนใจทำ "บ้านประชารัฐ" รัฐบาลก็จะทำเอง  เรื่องนี้ ดร.โสภณ เห็นว่า "แค่คิดก็ผิดแล้ว" เพราะการที่ภาครัฐทำเองเช่นการเคหะแห่งชาติ ก็ไม่สามารถสู้กับภาคเอกชนได้ หากให้ภาครัฐตั้งหน่วยงานอื่นมาทำเองอีก ก็คงยิ่งจะ "เจ๊ง" ไปใหญ่ นโยบายที่อยู่อาศัยทั่วโลกเน้นให้เอกชนหรือภาคประชาชนดำเนินการเองโดยรัฐเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก ไม่ใช่เป็นผู้พัฒนาที่ดินเสียเอง
            3. ตาม "แหล่งข่าว" ในข่าวกล่าวว่าผู้ประกอบการต่างจังหวัดสนใจเข้าร่วม ดร.โสภณ ตั้งข้อสังเกตว่าคงเป็น "แหล่งข่าวเท็จ" ของสื่อมวลชน เพราะในต่างจังหวัดเวลานี้สถานการณ์ย่ำแย่กว่ากรุงเทพมหานคร ในปี 2558 ที่ผ่านมาแทบไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ความต้องการที่อยู่อาศัยแทบไม่มี จึงไม่มีความจำเป็นที่รัฐจะเข้าไปโอบอุ้มแต่อย่างใด
            4. "แหล่งข่าว" ยังจะว่าจะสร้างแบบผสมๆ (Price-mixed) คือทำแบบขายขาดทุนจำนวนหนึ่ง แบบขายเอากำไรมาชดเชยการขาดทุน (Cross Subsidy) อีกจำนวนหนึ่งทั้งที่ในตลาดขณะนี้ ภาคเอกชนสามารถสร้างบ้านและห้องชุดขายในราคาสมเหตุสมผลอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างบ้านถูกเกินไปเลย การทำนโยบายและแผนเช่นนี้จึงไม่มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เพียงเป็นการสร้างผลงานแบบ "ผักชีโรยหน้า" เท่านั้น
            5. จะสังเกตได้ว่าทีมเศรษฐกิจนี้ให้ความสำคัญต่อการปรึกษากับสมาคมผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ 3 สมาคมเป็นสำคัญ ไม่ได้ขอคำปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องอื่นเลย เช่น สมาคมรับสร้างบ้าน สมาคมนายหน้าฯ สมาคมประเมินฯ สมาคมบริหารทรัพย์สินฯ และอื่น ๆ ซึ่งมีอยู่มากกว่า 30 สมาคม ที่ ดร.โสภณ พูดเช่นนี้ไม่ได้หวังจะไปรับประโยชน์ใด ๆ หากมีการเชิญก็ไม่รับ แต่เพียงอยากให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลพิจารณาให้กว้างและลึกกว่านี้

            หากพิจารณาจากการทำงานของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ทีมนี้ ก็น่าหนักใจแทนนายกรัฐมนตรี ที่ทีมนี้ก็ยังไม่อาจสร้างผลงานกระตุ้นเศรษฐกิจแต่อย่างไร โอกาสที่จะนับถอยหลังหาทางตั้งทีมใหม่อาจจะใกล้เข้ามา