มูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเงิน 209,933 ล้านบาท รวม 70,161 หน่วย ขณะนี้ยังเหลือขายอยู่ 10,851 หน่วย มูลค่าลดไป 0.11% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ ปรับปรุงข้อมูลทันสมัยที่สุด และเป็นกลางที่สุดเพราะไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นกรรมการ แถลงถึงผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ว่า จากการสำรวจล่าสุด ณ ไตรมาสที่ 1/2563 พบจำนวนหน่วยขายทั้งหมด 70,161 หน่วย รวมมูลค่า 209,933 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.992 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาประมาณ 75% ของราคาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
            ในจำนวน 70,161 หน่วยนี้ มีผู้จองซื้อไปแล้ว 59,310 หน่วย หรือ 85% ยังเหลือขายอยู่เพียง 10,851 หน่วย หรือ 15% เท่านั้น  หากมีโครงการเปิดใหม่ สินค้าเดิมที่ค้างอยู่ 10,851 หน่วยนี้ ณ ไตรมาสที่ 1/2563 จะมาแข่งขันด้วย  ผู้ประกอบการจำเป็นต้องทราบว่าในบริเวณใด สินค้าประเภทใด และ ณ ระดับราคาใดที่มีเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด ก่อนลงทุนพัฒนาที่ดิน  อย่างไรก็ตามผลการสำรวจเปรียบเทียบกัน 1 ปี คือ ณ ไตรมาสที่ 1/2562 - ไตรมาสที่ 1/2563 พบว่าราคาที่อยู่อาศัยลดลงไปเพียง 0.11% เท่านั้น แสดงว่าแทบจะไม่ลดราคาเลย

         อย่างไรก็ตามกลุ่มที่ลดราคาลงมากที่สุดก็คือ ห้องชุดที่ขายในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ณ อำเภอสันทราย ราคาปรับลดลงสูงสุดถึง 11.09% โดยเมื่อปีก่อนขายอยู่ที่ราคา 2.57 ล้านบาท มาปีนี้เหลือ 2.285 ล้านบาท รองลงมาคือบ้านเดี่ยวราคาแพงคือ 10-20 ล้านบาท ณ อำเภอเมือง ที่เคยขาย ณ ราคา 19.091 ล้านบาท ลงราคาเหลือเพียง 17.388 ล้านบาท หรือลดลง 8.92% แสดงว่าสินค้ากลุ่มนี้อาจไม่เป็นที่ต้องการของตลาดมากนัก
            ในทางตรงกันข้าม สินค้าที่เพิ่มราคาสูงได้แก่ ทาวน์เฮาส์ ที่ขายในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ณ อำเภอสารภี ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นถึง 14.29% โดยเพิ่มจากราคา 1.956 ล้านบาท เป็น 2.235 ล้านบาทต่อหน่วย  และทาวน์เฮาส์ระดับราคาเดียวกัน ณ อำเภอดอยสะเก็ด ก็มีราคาเพิ่มขึ้นมากถึง 13.68% เช่นกัน  นอกจากนี้ยังมีบ้านแฝด ราคา 3-5 ล้านบาท ณ อำเภอสารภี ที่ขายราคาเพิ่มขึ้นถึง 12.22% เช่นกัน  สินค้าที่สามารถขยับราคาขายได้นั้น มักเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดนั่นเอง

            ภาวะตลาดในเชียงใหม่ขณะนี้ไม่ได้ย่ำแย่ไปเสียทั้งหมด บางภาคส่วนก็ยังสามารถขายได้ หากกำหนดราคาได้สอดคล้องกับตลาดและมีการศึกษาตลาดที่ดีเพียงพอ