คุณสมศักดิ์ ศิริผลชีวินที่ผมอยากแนะนำให้รู้จัก เป็นเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งเกษียณของผมที่สัตย์ซื่อที่ถือคติ “ขอเกิดที่ไหน ตายที่นั่น” ไม่เคยด่างพร้อยเรืองเงิน เรื่องส่วนตัวใดๆ ร่วมฝ่าฟันทำงานกันมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของบริษัทกว่า 30 ปีแล้ว ช่วยผมตะลุยมาแล้วทั่วประเทศ

            เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารท่านหนึ่งของผมคือคุณสมศักดิ์ ศิริผลชีวิน ได้ขอเกษียณอายุจากการทำงานไปในวัย 60 ปี หลังจากทำงานร่วมกันมา 30 ปี  ผมจึงขอเขียนยกย่อง “น้องชาย” ท่านนี้ของผมให้เห็นว่าคุณสมศักดิ์ เป็นแบบอย่างที่ดีในหลายๆ ด้าน ผมในฐานะประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ขออนุญาตเขียนยกย่องคุณสมศักดิ์ ศิริผลชีวิน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน (พนักงาน) ที่เกษียณอายุไปในวัย 60 ปีท่านแรก ท่านอื่นๆ แม้รับบำเหน็จการเกษียณไปแล้วแต่ยังทำงานต่อไป เพราะที่นี่ถือว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข  และสำหรับคุณสมศักดิ์ ผมยังมี Option ให้สามารถกลับมาร่วมงานกันใหม่ได้ หาก “เบื่อ” กับการอยู่บ้าน

            คุณสมศักดิ์หรือชื่อเล่นว่า “อ้วน” กับผมรู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2530 หรือเมื่อ 35 ปีก่อน โดยเราต่างเป็นลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่ง  ต่อมาผมก็ลาออกไปอยู่บริษัทข้ามชาติ แต่คุณสมศักดิ์ก็ยังอยู่ที่บริษัทเดิม และหลังจากนั้นผมก็ได้รับเชิญกลับมาบริษัทเดิมอีก คุณสมศักดิ์ก็ยังไมได้ย้ายไปไหน  ต่อมามีเพื่อนร่วมงานกลุ่มหนึ่งออกไปตั้งบริษัทใหม่ ได้ชักชวนคุณสมศักดิ์ไปด้วย แต่คุณสมศักดิ์พูดคำหนึ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากก็คือเขาไม่ย้ายไปไหนหรอก “ขอเกิดที่ไหน ตายที่นั่น” นี่แสดงถึงความมั่นคงของคุณสมศักดิ์

            ต่อมาผมลาออกจากบริษัทเดิมนั้น มาตั้งบริษัทวิจัยของตนเอง ก็ไม่ได้ชักชวนคุณสมศักดิ์ออกมาด้วย จนต่อเมื่อบริษัทดังกล่าวปิดไป จึงค่อยชวนคุณสมศักดิ์มาร่วมงาน  โดยในช่วงแรกของบริษัทของผมนี้มีเพื่อนร่วมงานอยู่ไม่กี่คน เวลาออกไปสำรวจวิจัย ผมก็ไปเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งต้องเดินทางไปถึงจังหวัดอุดรธานีผมก็ไปกับคุณสมศักดิ์ ออกจากกรุงเทพมหานครตอนค่ำ ขับไปถึงอุดรธานีตอนตี 4 ก็พักนอนในรถกันเพื่อประหยัดค่าที่นอน แล้วออกทำงานเลย  คุณสมศักดิ์ได้อยู่กับผมตั้งแต่ช่วงตั้งตัวแรกๆ จนถึงเกษียณอายุ ตะลุยมาแล้วทั่วประเทศตั้งแต่ยังเป็นบริษัทไม่ถึงสิบคนจนปัจจุบันมีนับร้อยคน

            คุณสมศักดิ์มีความเชี่ยวชาญเรื่องรถเป็นอย่างมาก  มีอยู่ครั้งหนึ่งผมกับคุณสมศักดิ์ขับรถไปประเมินค่าทรัพย์สินแถวระยองด้วยกัน เป็นสวนผลไม้หรือสวนยาง  ทางเป็นเนินสูงมาก พอผมขับรถขึ้นไปถึง มีทางเดียวที่จะลงก็คือถอยหลังลง  แต่ผมไม่ชำนาญ คุณสมศักดิ์จึงอาสาขับรถลง โดยผมออกมานอกรถ คอยดูทาง เพราะถ้านั่งด้วยกัน รถกลิ้งก็คงประสบอุบัติเหตุทั้งคู่  และยังมีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อนที่รถมือหนึ่งราคาแพงมาก น้องชายของผมไปหาซื้อรถมือสอง คุณสมศักดิ์ก็เป็นคนไปช่วยเลือกให้

            ตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกันมา คุณสมศักดิ์ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยเรื่องเงินเลย ไม่เคยไปหยิบยืมเงินคนนั้นคนนี้ ไม่เคยไปโกงใคร ไม่เคยโกงเงินบริษัท เวลาออกไปประเมิน มีลูกค้าให้เงินหรือสิ่งของมา ก็ไม่รับ หรือบางทีเสียไม่ได้รับเป็นสิ่งของมาแล้ว ก็แจ้งทางบริษัทเพื่อทางบริษัทจะได้จัดส่งคืนต่อไป  นี่เป็นคุณสมบัติอันแสนวิเศษที่นายจ้างทุกคนต้องการจากลูกจ้าง  คุณสมศักดิ์จึงเป็นคนที่เชื่อถือได้เป็นอย่างมาก

            แม้แต่ในเชิงส่วนตัว คุณสมศักดิ์ก็ไม่สูบบุหรี่ แทบไม่เคยไปกินเหล้าหรือเข้าวงสังสรรค์อะไรเป็นพิเศษ ถือเป็นแบบอย่างของ Family Man เป็นอย่างดี  ไม่เคยไปมีกิ๊ก เรียกได้ว่าอยู่ในทำนองคลองธรรมโดยตลอด  คุณสมศักดิ์มีบุตรสาว 2 คน และครองคู่กับศรีภริยาคนเดียวมาจนปัจจุบัน  ศรีภริยาก็เปิดร้านอาหารตามสั่ง คุณสมศักดิ์คงอยากไปช่วยงานศรีภริยา และจะได้มีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้นนั่นเอง

            แน่นอนว่าคนเราใช่จะมีแต่ด้านดี แต่ด้านเสีย ด้านลบของคนเราก็ย่อมมีบ้าง  อายุมาถึง 60 ปี ก็ต้องมี “พลาดพลั้ง” บ้าง เช่น ในการประเมินค่าทรัพย์สิน อาจจะผิดพลาดบ้าง แต่ด้วยระบบการตรวจสอบ Quality Check ของเรา ก็สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที  คุณสมศักดิ์ยังไม่เคยประเมินค่าทรัพย์สินจนกระทั่งบริษัทต้องไปชดใช้ค่าเสียหายในฐานะที่ประเมินผิดพลาดจากการประมาทเลินเล่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว และอันที่จริงกรณีผิดพลาดต่างๆ จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ลูกค้าหรือสถาบันการเงินที่ว่าจ้าง ก็แทบไม่มีเกิดขึ้นในบริษัทของเราเลย

            ผมจึงขอขอบคุณคุณสมศักดิ์ ศิริผลชีวิน อดีตเพื่อนร่วมงานที่น่านับถือของเรา ขอให้มีสุขสวัสดิ์

https://fb.watch/btdvQqYbWM/