บริษัทญี่ปุ่นย้ายฐานจากไทย สัญญาณฉิบหายของชาติ
  AREA แถลง ฉบับที่ 304/2563: วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ประเทศไทยเติบโตได้เพราะญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังย้ายฐานจากไทย ลางร้ายทางเศรษฐกิจของไทย ต่อไปไทยจะถูกเวียดนาม และอินโดนีเซียแซงแน่นอน

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวในฐานะที่สำรวจวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอดพบว่า ญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตมาไทยตั้งแต่หลังปี 2528 ที่มีข้อตกลงพลาซา จึงทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนสภาพจากประเทศเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน

            ข้อตกลงพลาซา (อังกฤษ: Plaza Accord) มี “ชื่ออย่างเป็นทางการคือ ปฏิญญาระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ (Announcement of the Ministers of Finance and Central Bank Governors of France, Germany, Japan, the United Kingdom, and the United States) เป็นข้อตกลงระหว่าง 5 ประเทศอุตสาหกรรมหลัก เพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นและเยอรมนีเพิ่มค่าเงินของตัวเองเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลทั้งห้าประเทศได้ลงนามข้อตกลงนี้ในวันที่ 22 กันยายน 2528 ที่โรงแรมพลาซา ในนครนิวยอร์ก”

            ผลของข้อตกลงนี้ก็คือ “ญี่ปุ่นและเยอรมนีสามารถซื้อหาสินค้าต่างประเทศได้ในราคาถูกลงเกือบเท่าตัว แต่ในทางตรงข้าม สินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นในสายตาของชาวโลกกลับมีราคาแพงขึ้นเท่าตัวด้วยเช่นกัน. . .เมื่อภาคการผลิตในญี่ปุ่นทำผลกำไรลดต่ำลง จึงเกิดการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่าและขนส่งได้สะดวก ซึ่งก็คือกลุ่มอาเซียน” โดยเฉพาะไทย  ทั้งนี้ไทยถือเป็นเป้าหมายใหญ่ บริษัทใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นย้ายมาไทยมากกว่าประเทศอื่น ในขณะเดียวกันประเทศในอินโดจีนยังขาดความมั่นคงทางการเมือง  ฟิลิปปินส์ก็เพิ่งมีการโค่นล้มประธานาธิบดีมากอสในปี 2529  ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ประเทศไทยเติบโตขึ้นมาได้เพราะญี่ปุ่น

            แต่ในขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังจะย้ายออกจากไทย เช่น พานาโซนิกก็ย้ายไปเวียดนาม ชาร์ปก็ย้ายไปอินโดนีเซีย  อันที่จริง ประเทศไทยถือเป็น “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” เพราะ “ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางการผลิตของบรรดาค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ที่ใช้เป็นฐานและครองตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน โดยทั้งโตโยต้า มอเตอร์, ฮอนด้า มอเตอร์, นิสสัน มอเตอร์, มาสด้า, อีซูซุ มอเตอร์ส ต่างมีโรงงานในไทย ซึ่งโดยรวมแล้วในปี 2018 ค่ายรถยนต์ต่างๆ ผลิตรถยนต์รวมกัน 2.16 ล้านคันในไทย และราวครึ่งหนึ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก” <2>

            นี่ถ้าบริษัทรถยนต์ย้ายออกไป บรรดาบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ทั้งหลายก็คงพังไปด้วย ระบบเศรษฐกิจไทยก็คงพังไปกันใหญ่  ทุกวันนี้บริษัทใหม่ๆ ของญี่ปุ่น เกาหลี จีน ต่างไปอินโดจีน อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เป็นอย่างมาก จะทำให้ประเทศเหล่านี้มีเศรษฐกิจที่เติบโตก้าวกระโดด และเชื่อว่าในไม่ช้าอาจจะทัดเทียมไทย และที่น่ากลัวก็คืออาจจะแซงหน้าประเทศไทยไปในที่สุดเช่นเดียวกับเกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย และจีน เป็นต้น

            ทุกวันนี้กัมพูชาก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก บริษัทยักษ์ใหญ่จากทั้งเกาหลี จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ต่างพากันไปลงทุนกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเมียนมาเช่นกัน  ถ้าไทยยังเป็นเหมือนเดิม ประชาชนจะอยู่ยากมาก

            6 ปีมานี้ที่ญี่ปุ่น เกาหลีพาเหรดกันไปประเทศอื่นถือเป็นความสูญเสียจริงๆ


ที่มา: https://www.imf.org/external/datamapper/NGDP_RPCH@WEO/THA/IDN/MYS/PHL/VNM

 

อ้างอิง
<1> Wikipedia. ข้อตกลงพลาซา https://bit.ly/3goFMMM
<2> สื่อดังญี่ปุ่นเผย ค่ายรถยนต์จ่อย้ายฐานผลิตหนีไทย หลังเจอกระทบหนักจากบาทแข็ง. 24 ธันวาคม 2562. https://www.sanook.com/news/7990998

อ่าน 7,089 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved